รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่เมื่อวันพฤหัสบดี (3 ก.ค.) มุ่งเป้าไปยังเครือข่ายลักลอบค้าน้ำมันอิหร่าน และสถาบันการเงินที่ควบคุมโดยกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า หนึ่งในเป้าหมายสำคัญคือเครือข่ายบริษัทที่บริหารโดยซาลิม อาห์เมด ซาอิด นักธุรกิจสองสัญชาติอิรัก–อังกฤษ ซึ่งดำเนินการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านแล้วนำไปผสมหรือปลอมแปลงว่าเป็นน้ำมันอิรัก เพื่อหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร โดยกิจกรรมดังกล่าวดำเนินต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563 และมีมูลค่ารวมหลายพันล้านดอลลาร์
สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ กล่าวว่า กระทรวงฯ จะเดินหน้าปิดช่องทางรายได้ของรัฐบาลอิหร่าน และเพิ่มแรงกดดันทางเศรษฐกิจเพื่อขัดขวางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่หล่อเลี้ยงกิจกรรมคุกคามเสถียรภาพ
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ออกมาตรการคว่ำบาตรต่อการส่งออกน้ำมันของอิหร่านมาอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างเหตุผลเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านและการสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในตะวันออกกลาง
นอกจากนี้ ยังมีรายงานจากสื่อสหรัฐฯ ว่า สตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ เตรียมเดินทางไปยังกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ เพื่อหารือกับอับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านในสัปดาห์หน้า หากเกิดขึ้นจริง การพบปะครั้งนี้จะนับเป็นการเจรจาโดยตรงครั้งแรกนับตั้งแต่สหรัฐฯ และอิสราเอลร่วมโจมตีเป้าหมายนิวเคลียร์ของอิหร่านเมื่อเดือนที่แล้ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ก.ค. 68)
