สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า เม็ดเงินไหลเข้ากองทุน ETF ทองคำทั่วโลกสูงถึง 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2563 เนื่องจากสงครามการค้าที่มีสาเหตุมาจากมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในกองทุน ETF ทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทั้งจากความผันผวนทางการเมืองและเศรษฐกิจ
WGC ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกเหมืองทองคำทั่วโลกยังระบุด้วยว่า การถือครองทองคำของกองทุน ETF ทองคำทั่วโลกรวมกันในช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 397.1 ตัน ส่งผลให้ยอดรวมการถือครองที่นับจนถึงสิ้นเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3,615.9 ตัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2563
นอกจากนี้ ข้อมูลของ WGC ระบุว่า กองทุน ETF ทองคำที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ถือครองทองคำในปริมาณมากที่สุดถึง 206.8 ตันในช่วงครึ่งปีแรก ขณะที่กองทุน ETF ทองคำที่จดทะเบียนในเอเชียถือครองทองคำในปริมาณ 104.3 ตัน
WGC ระบุว่า แม้แรงขับเคลื่อนจะอ่อนแรงลงในช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย. แต่นักลงทุนชาวเอเชียก็เข้าลงทุนในกองทุน ETF ทองคำในปริมาณสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงครึ่งแรกของปี ซึ่งมีส่วนช่วยให้เม็ดเงินไหลเข้ากองทุนในสัดส่วน 28% ของกระแสเงินไหลเข้าสุทธิทั่วโลก
เม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETF ทองคำอย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีแรกนั้น ส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัวด้านการลงทุนทองคำ หลังจากที่เม็ดเงินไหลเข้าเพียงเล็กน้อยในปี 2567 ภายหลังจากที่เม็ดเงินได้ไหลออกจากกองทุนติดต่อกันเป็นเวลานานถึง 3 ปีอันเนื่องมาจากผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยสูง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.ค. 68)
