แคมป์เบลล์ วิลสัน ซีอีโอของสายการบินแอร์อินเดีย (Air India) ระบุในบันทึกภายในที่ส่งถึงพนักงานในวันนี้ (14 ก.ค.) ว่า อย่าเพิ่งด่วนสรุปสาเหตุของเครื่องบินตกที่เมืองอาเมดาบัดเมื่อเดือนก่อน แม้ว่าจะมีการเปิดเผยรายงานการสืบสวนเบื้องต้นแล้วก็ตาม
บันทึกภายในที่วิลสันส่งถึงพนักงานระบุว่า การสืบสวนยังคงดำเนินต่อไป หลังจากรายงานเบื้องต้นระบุว่า เกิดความสับสนในห้องนักบินของเครื่องบินโบอิ้ง ดรีมไลเนอร์ ก่อนตกกระแทกพื้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 260 ราย โดยรายงานระบุว่า สวิตช์ควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิงถูกสับปิดเกือบจะทันทีหลังจากที่เครื่องบินเทคออฟ ส่งผลให้เครื่องยนต์ทั้งสองข้างดับลง
วิลสันระบุในบันทึกว่า “การเปิดเผยรายงานเบื้องต้นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราและชาวโลกได้ทราบรายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจที่มันให้ทั้งความกระจ่างและสร้างคำถามใหม่ ๆ ขึ้นมา” พร้อมกับเสริมว่า “รายงานเบื้องต้นยังไม่ได้ชี้ชัดถึงสาเหตุหรือให้ข้อเสนอแนะใด ๆ ดังนั้น ผมจึงขอให้ทุกคนหลีกเลี่ยงการด่วนสรุป เพราะการสอบสวนยังคงดำเนินต่อไป”
ตามรายงานของสำนักงานสืบสวนอุบัติเหตุทางอากาศ (AAIB) เครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ลำดังกล่าว ซึ่งมีเส้นทางบินจากเมืองอาเมดาบัดมุ่งหน้าสู่กรุงลอนดอนนั้น ได้สูญเสียแรงขับและลดระดับลงหลังทะยานขึ้นได้ไม่นาน
บันทึกดังกล่าวระบุว่า รายงานเบื้องต้นไม่พบข้อบกพร่องด้านกลไกหรือการซ่อมบำรุง และยังไม่ได้เสนอให้มีการดำเนินการใด ๆ ในทันทีต่อโบอิ้ง ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบิน หรือ จีอี (GE) ผู้ผลิตเครื่องยนต์
ขณะเดียวกัน สมาคมนักบินอินเดีย (ALPA India) ได้ปฏิเสธข้อสันนิษฐานที่อาจมุ่งไปที่ความผิดพลาดของนักบิน และเรียกร้องให้มีการไต่สวนที่เป็นธรรมและอิงตามข้อเท็จจริง
นอกเหนือจากโศกนาฏกรรมดังกล่าวซึ่งมีผู้เสียชีวิตบนเครื่อง 241 ราย และเสียชีวิตบนภาคพื้นดินอีก 19 รายแล้ว สายการบินแอร์อินเดียกำลังถูกตรวจสอบในอีกหลายกรณี โดยเมื่อวันที่ 4 ก.ค. สำนักงานความปลอดภัยการบินแห่งสหภาพยุโรป (EASA) ประกาศว่าจะสอบสวนสายการบินลูกอย่าง แอร์อินเดีย เอ็กซ์เพรส หลังจากสื่อรายงานว่า สายการบินไม่เปลี่ยนชิ้นส่วนเครื่องยนต์ Airbus A320 ตามกำหนด และยังปลอมแปลงเอกสารว่าได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดแล้วอีกด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.ค. 68)
