
กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นแสดงความกังวลในรายงานประจำปี 2568 ที่เผยแพร่ในวันนี้ (15 ก.ค.) ว่า จีนกำลังขยายศักยภาพการปฏิบัติการทางทหารครอบคลุมพื้นที่ที่กว้างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สะท้อนให้เห็นถึงความตื่นตัวอย่างสูงต่อกิจกรรมที่แสดงท่าทีแข็งกร้าวของกองทัพจีนในแปซิฟิกตะวันตก
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รายงานฉบับดังกล่าวยังระบุถึงภัยคุกคามด้านความมั่นคงจากเกาหลีเหนือและรัสเซียด้วย ขณะที่ญี่ปุ่นกำลังเดินหน้าตามเป้าหมายที่จะเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมให้ถึง 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการป้องกันประเทศขั้นพื้นฐาน ท่ามกลางแรงกดดันจากสหรัฐฯ ให้เพิ่มการใช้จ่าย
รายงานระบุว่า จีนได้ยกระดับขีดความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ห่างไกลมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยปีที่แล้วมีการขึ้นลงของเครื่องบินจากเรือบรรทุกเครื่องบินในมหาสมุทรแปซิฟิกรวมกันมากกว่า 1,200 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวล่าสุดที่ไม่ได้กล่าวถึงในเอกสารนี้ คือการปฏิบัติการพร้อมกันของเรือบรรทุกเครื่องบินจีน 2 ลำ ได้แก่ เรือซานตง และ เรือเหลียวหนิง ในแปซิฟิกตะวันตกเมื่อต้นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งญี่ปุ่นยืนยันว่าเป็นครั้งแรกที่ตรวจพบในน่านน้ำดังกล่าว
เอกสารระบุว่า “กิจกรรมทางทหารที่เข้มข้นขึ้น” ของจีนนำไปสู่สถานการณ์ที่อาจ “ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคงของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง”
นอกจากนี้ จีนยังพยายามส่งเสริมศักยภาพในการปฏิบัติหน้าที่ใน “พื้นที่สีเทา” ซึ่งเป็นการกระทำที่ก้าวร้าวแต่ไม่ถึงขั้นโจมตีด้วยอาวุธ โดยเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกองทัพกับกองกำลังตำรวจติดอาวุธ เช่น หน่วยยามฝั่ง
รายงานยังระบุอีกว่า จีนอาจ “ซ้อมปฏิบัติการทางทหารบางส่วนเพื่อรวมชาติกับไต้หวัน รวมถึงปฏิบัติการบุกรุก” ในพื้นที่รอบเกาะไต้หวัน ซึ่งทางการจีนถือว่าไต้หวันเป็นมณฑลที่แยกตัวออกไปและต้องการนำกลับคืนสู่การปกครอง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ค. 68)