ทรัมป์ร่วมประชุมยักษ์ใหญ่เทค-พลังงาน ผลักดันสหรัฐฯ ผู้นำ AI ท่ามกลางการลงทุนมหาศาล

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เข้าร่วมการประชุมสุดยอดกับผู้บริหารจากบริษัทเทคโนโลยีและพลังงานรายใหญ่ของสหรัฐฯ ที่เมืองพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย ในวันอังคาร (15 ก.ค.) ท่ามกลางความพยายามของรัฐบาลที่จะออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในประเทศ

การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐฯ และจีน สองคู่แข่งทางเศรษฐกิจ กำลังขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดในสมรภูมิเทคโนโลยีเพื่อชิงความเป็นใหญ่ด้าน AI ซึ่งทวีความสำคัญขึ้นในทุกมิติ

การประชุมสุดยอดด้านพลังงานและนวัตกรรม (Energy and Innovation Summit) ณ มหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน มีเป้าหมายเพื่อหารือแนวทางผลักดันให้สหรัฐฯ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้าน AI โดยมีผู้บริหารจากบริษัทชั้นนำเข้าร่วม อาทิ เมตา (Meta), ไมโครซอฟท์ (Microsoft), อัลฟาเบท (Alphabet) และเอ็กซอนโมบิล (Exxon Mobil)

ในงานนี้ ปธน.ทรัมป์และวุฒิสมาชิก เดฟ แมคคอร์มิก พันธมิตรจากพรรครีพับลิกันซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดงาน ได้เน้นย้ำถึงการลงทุนด้าน AI และพลังงานในรัฐเพนซิลเวเนียซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

“นี่คือวันแห่งชัยชนะอย่างแท้จริงสำหรับประชาชนในเครือรัฐ (เพนซิลเวเนีย) และสำหรับสหรัฐอเมริกา เรากำลังทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครคิดว่าจะเป็นไปได้” ปธน.ทรัมป์กล่าวต่อผู้เข้าร่วมประชุม

ในขณะที่กลุ่มบิ๊กเทคกำลังเร่งหาพลังงานไฟฟ้าให้เพียงพอสำหรับศูนย์ข้อมูล (Data Center) ที่ใช้พลังงานมหาศาล ได้มีการประกาศข้อตกลงและการลงทุนครั้งสำคัญหลายรายการในวันอังคาร ได้แก่ แบล็กสโตน (Blackstone) บริษัทจัดการสินทรัพย์ ประกาศแผนลงทุน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในศูนย์ข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในเพนซิลเวเนีย ขณะเดียวกัน คอร์วีฟ (CoreWeave) ประกาศลงทุน 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูล AI และกูเกิล (Google) บรรลุข้อตกลงมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อซื้อไฟฟ้าพลังน้ำในสหรัฐฯ จากโรงไฟฟ้า 2 แห่งในเพนซิลเวเนีย ภายใต้สัญญาระยะยาว 20 ปี

ความต้องการพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นได้ผลักดันให้เกิดข้อตกลงที่ไม่เคยมีมาก่อนระหว่างอุตสาหกรรมเทคโนโลยีกับพลังงาน รวมถึงความพยายามที่จะกลับมาเดินเครื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทรีไมล์ไอส์แลนด์ (Three Mile Island) อีกครั้ง

เพื่อสนับสนุนการเติบโตนี้ ทำเนียบขาวกำลังพิจารณาใช้อำนาจฝ่ายบริหารเพื่อลดอุปสรรคในการเชื่อมต่อโรงไฟฟ้าเข้ากับสายส่งของประเทศ และอาจจัดสรรที่ดินของรัฐบาลกลางเพื่อใช้สร้างศูนย์ข้อมูล

ความเคลื่อนไหวนี้สืบเนื่องมาจากคำสั่งของทรัมป์เมื่อเดือนม.ค. ที่ให้จัดทำ “แผนปฏิบัติการด้าน AI” (AI Action Plan) เพื่อทำให้ “อเมริกาเป็นเมืองหลวงแห่งปัญญาประดิษฐ์ของโลก” โดยมีกำหนดส่งรายงานฉบับสมบูรณ์ในวันที่ 23 ก.ค.นี้

ทั้งนี้ การเติบโตของ AI ได้ทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าในสหรัฐฯ ซึ่งเคยซบเซามาเกือบ 2 ทศวรรษ กลับมาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับปัญหาไฟฟ้าขาดแคลน ค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น และความเสี่ยงที่จะเกิดไฟดับ ส่งผลให้กลุ่มบิ๊กเทคเผชิญอุปสรรคในการแข่งขันกับประเทศต่าง ๆ รวมถึงคู่แข่งสำคัญอย่างจีน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ค. 68)