
ผลการนับคะแนนเบื้องต้นบ่งชี้ว่า พรรคร่วมรัฐบาลญี่ปุ่นสูญเสียเสียงข้างมากในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 ก.ค.) ซึ่งผลลัพธ์ดังกล่าวจะสร้างแรงกดดันอย่างหนักต่อนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ โดยอิชิบะยังคงยืนยันที่จะอยู่ในตำแหน่งต่อไป แม้พรรคของเขาจะประสบความพ่ายแพ้อีกครั้งก็ตาม
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า อิชิบะกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก เนื่องจากพรรคฝ่ายค้านหลักทุกพรรคต่างปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกับพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) และพรรคโคเมอิโตะ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
ขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลได้สูญเสียเสียงข้างมากในทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากมากสำหรับรัฐบาลญี่ปุ่นในยุคหลังสงคราม โดยสถานการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ว่า การสนับสนุนจากฝ่ายค้านจะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นสำหรับการผ่านร่างกฎหมายและงบประมาณ
พรรค LDP และพรรคโคเมอิโตะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการได้ที่นั่งอย่างน้อย 50 ที่นั่งจาก 125 ที่นั่ง ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่จำเป็นต่อการครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา
ทั้งนี้ ดูเหมือนว่าพรรค LDP จะสูญเสียความนิยมในหมู่นักอนุรักษ์นิยมบางส่วน โดยมีพรรคซันเซโตะ (Sanseito) ซึ่งมีแนวคิดชาตินิยม ขึ้นมาเป็นทางเลือก โดยแม้จะมีคำขวัญว่า “ญี่ปุ่นต้องมาก่อน” และนโยบายชาตินิยมที่มุ่งเป้าไปที่ชาวต่างชาติ แต่พรรคซันเซโตะกลับมีคะแนนเสียงในวุฒิสภาเพิ่มขึ้นเกิน 10 ที่นั่ง ซึ่งเป็นระดับที่ทำให้สามารถยื่นร่างกฎหมายในสภาได้
การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีต่อรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่มีอายุเพียงไม่กี่เดือน ท่ามกลางความไม่พอใจที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการรับมือกับราคาที่สูงขึ้น การเติบโตของค่าจ้างที่ไม่เพียงพอ และการเจรจาภาษีศุลกากรกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่แทบจะไม่คืบหน้า
สำหรับนโยบายของพรรคต่าง ๆ นั้น พรรค LDP ของนายกรัฐมนตรีอิชิบะ มีจุดยืนที่เข้มงวดมากขึ้นกว่าการหาเสียงในอดีต โดยพรรคชูนโยบาย “ชาวต่างชาติผิดกฎหมายเป็นศูนย์” ด้วยการตรวจสอบประวัติบุคคลอย่างเข้มงวดก่อนอนุญาตให้เข้าประเทศ ขณะเดียวกัน นายกฯ อิชิบะเน้นย้ำว่า ญี่ปุ่นจำเป็นต้องมีแรงงานต่างชาติที่ถูกกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาการลดลงของประชากร
ด้านพรรครัฐธรรมนูญประชาธิปไตย (CDP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก สนับสนุนการมีแรงงานต่างชาติมากขึ้น โยชิฮิโกะ โนดะ หัวหน้าพรรค ย้ำว่า ญี่ปุ่นต้องการแรงงานต่างชาติเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนกำลังคน โดยเฉพาะในภาคการพยาบาลและการดูแลเด็ก นอกจากนี้ พรรคมีแนวคิดสนับสนุนสังคมหลากหลายวัฒนธรรม ต้อนรับชาวต่างชาติและครอบครัวให้มาทำงาน เรียนรู้ และอยู่ร่วมกับชุมชนท้องถิ่นได้
ขณะที่พรรคประชาธิปไตยเพื่อประชาชน (DPP) ไม่ต่อต้านแรงงานต่างชาติ พร้อมสนับสนุนการฝึกอบรมภาษาญี่ปุ่นสำหรับเด็กต่างชาติ ช่วยเหลือพวกเขาให้ปรับตัวเข้ากับชีวิตในญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม ยูอิจิโระ ทามากิ หัวหน้าพรรค สนับสนุนให้มีการกำหนดเงื่อนไขที่เข้มงวดขึ้นสำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ เพื่อควบคุมราคาอสังหาฯ ตามเมืองใหญ่ของญี่ปุ่น
ส่วนพรรคซันเซโตะซึ่งมีแนวคิดชาตินิยม ถือเป็นพรรคที่มีจุดยืนแข็งกร้าวที่สุด โซเฮ คามิยะ หัวหน้าพรรค เรียกร้องให้ยุติการสนับสนุนสวัสดิการสำหรับชาวต่างชาติ ห้ามจ้างชาวต่างชาติทำงานในภาครัฐ จำกัดจำนวนแรงงานและนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ และทำให้การโอนสัญชาติหรือการได้รับถิ่นที่อยู่ถาวรของชาวต่างชาติยากขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.ค. 68)