หนังสือพิมพ์โยมิอุริรายงานในวันนี้ (23 ก.ค.) ว่า นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะของญี่ปุ่น กำลังพิจารณาว่าจะลาออกจากตำแหน่งหรือไม่ หลังประเมินความคืบหน้าในการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ
รายงานระบุว่า อิชิบะได้แจ้งกับผู้ใกล้ชิดว่า เขาจะประกาศแนวทางรับผิดชอบต่อการที่พรรคร่วมรัฐบาลพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งวุฒิสภาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐฯ ได้บทสรุปที่ชัดเจน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มทรูธโซเชียล ว่า สหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่นแล้ว โดยจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่นในอัตรา 15% ลดลงจากก่อนหน้านี้ที่ขู่ว่าจะเรียกเก็บในอัตรา 25% ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวรวมถึงการที่ญี่ปุ่นจะลงทุนในสหรัฐฯ มูลค่า 5.5 แสนล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ อิชิบะกล่าวว่า เขาพร้อมจะพบปะหรือพูดคุยทางโทรศัพท์กับปธน.ทรัมป์ หลังได้รับรายงานจากเรียวเซ อากาซาวะ หัวหน้าคณะเจรจาการค้าของญี่ปุ่นว่า สหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่น
“ผมยังไม่สามารถพูดอะไรได้จนกว่าจะตรวจสอบรายละเอียดของข้อตกลงอย่างรอบคอบ” อิชิบะให้สัมภาษณ์กับนักข่าวเมื่อถูกถามว่า ข้อตกลงการค้าดังกล่าวจะมีผลต่อการตัดสินใจลาออกของเขาหรือไม่
ก่อนหน้านี้ ในการแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ (20 ก.ค.) อิชิบะยืนยันว่าจะทำหน้าที่ต่อเพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศทางการเมืองในช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นต้องเผชิญความท้าทาย โดยเฉพาะการเจรจาการค้าที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่พึ่งพาการส่งออก
ทั้งนี้ คาดว่าอิชิบะจะเข้าพบแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลในช่วงเย็นวันนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับผลเลือกตั้ง ท่ามกลางแรงกดดันภายในพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ที่เริ่มไม่เห็นด้วยกับท่าทีของอิชิบะที่ยังยืนกรานจะดำรงตำแหน่งต่อ แม้ฝ่ายรัฐบาลจะประสบความพ่ายแพ้การเลือกตั้งก็ตาม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.ค. 68)
