
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคชาวสหราชอาณาจักร (UK) ยังคงซบเซาในเดือนก.ค. ท่ามกลางความกังวลเรื่องการขึ้นภาษีและภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลให้ดัชนีการออมพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 18 ปี สะท้อนว่าภาคครัวเรือนกำลังเตรียมพร้อมรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจที่ยากลำบากในวันข้างหน้า ตามผลสำรวจของ GfK ที่เผยแพร่วันนี้ (25 ก.ค.)
ผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของ GfK ปรับตัวลงเล็กน้อยสู่ระดับ -19 จาก -18 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ -20
ขณะเดียวกัน ดัชนีการออม (ซึ่งไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของดัชนีความเชื่อมั่นหลัก) กลับพุ่งขึ้น 7 จุด แตะระดับ +34 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2550 ช่วงก่อนเกิดวิกฤตการเงินโลก
นีล เบลลามี ผู้อำนวยการฝ่ายข้อมูลเชิงลึกผู้บริโภคของ GfK กล่าวว่า “ข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้คนเริ่มสัมผัสได้ถึงเค้าลางของมรสุมเศรษฐกิจที่กำลังจะมาถึง” เขาชี้ว่าปัจจัยหลักมาจากกระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นภาษีในงบประมาณช่วงฤดูใบไม้ร่วง และแรงกดดันด้านราคาที่อาจซ้ำเติมปัญหาเงินเฟ้อให้เลวร้ายลง
ความกังวลดังกล่าวสอดคล้องกับการคาดการณ์ว่า ราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีคลัง จะประกาศขึ้นภาษีเป็นปีที่สองติดต่อกัน หลังจากนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ จำเป็นต้องกลับลำแผนการลดค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการสังคมหลายพันล้านปอนด์
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจตัวถัดไปนั้น นักลงทุนกำลังจับตาข้อมูลยอดค้าปลีกอย่างเป็นทางการของเดือนมิ.ย. ซึ่งจะเปิดเผยในเวลา 13.00 น. ตามเวลาประเทศไทยในวันนี้ โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่ายอดค้าปลีกจะฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักในเดือนพ.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.ค. 68)