มติถอดถอน 24 สส.ฝ่ายค้านไต้หวันล่ม พรรค DPP พลาดทวงคืนเสียงข้างมาก

ความพยายามถอดถอนสมาชิกสภานิติบัญญัติ 24 คนจากพรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักของไต้หวัน ประสบความล้มเหลวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (26 ก.ค.) นับเป็นความพ่ายแพ้ครั้งสำคัญของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ของประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ที่พลาดโอกาสทวงคืนเสียงข้างมากในสภา

ผลการลงมติครั้งนี้ยุติความพยายามของกลุ่มภาคประชาสังคมที่ต้องการส่งสารเตือนไปยังจีน แต่พรรค KMT ประณามว่าเป็นความพยายามทำลายประชาธิปไตย ขณะเดียวกัน รัฐบาลไต้หวันได้ออกมากล่าวหาว่า การลงมติครั้งประวัติศาสตร์นี้เผชิญกับการแทรกแซงจากจีนในระดับที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

เอริก จู ประธานพรรค KMT กล่าวขอบคุณผู้ลงคะแนนเสียง และเรียกร้องให้ปธน.ไล่ขอโทษและทบทวนการบริหารงาน โดยระบุว่า “ประชาชนชาวไต้หวันเลือกความมั่นคงและเลือกรัฐบาลที่ทำงานได้จริง แทนที่จะเป็นการต่อสู้ทางการเมืองภายใน”

ด้านอู๋ ซือเหยา เลขาธิการคณะกรรมการพรรค DPP ในสภา กล่าวว่า พรรคเคารพการตัดสินใจของประชาชน และผลลัพธ์นี้จะยิ่งตอกย้ำจุดยืน “ต่อต้านคอมมิวนิสต์และสนับสนุนไต้หวัน” ของพรรคให้แข็งแกร่งขึ้น พร้อมกล่าวหาว่าจีนพยายามแทรกแซงการลงมติทุกวิถีทาง ทั้งผ่านแรงกดดันทางทหารและปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร

ขณะเดียวกัน สำนักงานกิจการไต้หวันของจีนออกแถลงการณ์ระบุว่า ผลการลงมติสะท้อนให้เห็นว่า “การเล่นเกมการเมืองของพรรค DPP สวนทางกับเจตจำนงของประชาชน”

ความพยายามถอดถอนครั้งนี้มีขึ้นหลังจากพรรค DPP ของปธน.ไล่สูญเสียเสียงข้างมากในสภาจากการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ฝ่ายค้านสามารถผลักดันกฎหมายและตัดลดงบประมาณที่รัฐบาลไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะงบประมาณด้านกลาโหม

กลุ่มผู้สนับสนุนการถอดถอนกล่าวหาว่าพรรค KMT “ขายชาติ” ด้วยการส่งสส. ไปยังจีน ไม่สนับสนุนงบประมาณกลาโหม และสร้างความวุ่นวายในสภา แต่พรรค KMT ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยระบุว่าการถอดถอนครั้งนี้เป็นการกระทำที่ “มุ่งร้าย” และไม่เคารพผลการเลือกตั้ง พร้อมยืนยันว่าพรรคเพียงทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างชอบธรรมและรักษาช่องทางการสื่อสารกับปักกิ่งไว้เท่านั้น

ทั้งนี้ การลงมติเพื่อถอดถอนสส. พรรค KMT อีก 7 คน มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 23 ส.ค. นี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.ค. 68)