กระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงานของเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ (1 ส.ค.) ว่า ยอดส่งออกของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 5.9% เมื่อเทียบรายปีในเดือนก.ค. จากอุปสงค์เซมิคอนดักเตอร์ที่แข็งแกร่งทั่วโลก
ข้อมูลระบุว่า การส่งออกอยู่ที่ 6.08 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบรายปีสู่ระดับ 5.42 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เกาหลีใต้เกินดุลการค้า 6.61 พันล้านดอลลาร์
มูลค่าการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์พุ่งขึ้น 31.6% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 1.471 หมื่นล้านดอลลาร์ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับเดือนก.ค.
ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงความพยายามของบรรดาผู้ส่งออกที่ต้องการจัดส่งสินค้าก่อนเผชิญภาษีศุลกากรในอัตราที่สูงขึ้นจากสหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค.
ข้อตกลงในนาทีสุดท้ายที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศออกมา ช่วยให้ผู้ผลิตในเกาหลีใต้หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดได้ โดยสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากเกาหลีใต้ในอัตรา 15% แทนที่จะเป็นอัตรา 25% ที่ทรัมป์เคยขู่ไว้ก่อนหน้านี้
ข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ช่วยขจัดปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในอนาคต โดยเศรษฐกิจเกาหลีใต้หดตัวลงในช่วงสามเดือนแรกของปี และแม้ว่าเศรษฐกิจจะกลับมาเติบโตในไตรมาส 2/2568 แต่ธนาคารกลางคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะเติบโตเพียง 0.8% ในปีนี้ แม้จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ก็ตาม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ส.ค. 68)
