เมื่อเวลา 10.21 น. JAS พุ่ง 8.50% เพิ่มขึ้น 0.13 บาท มาที่ 1.66 บาท มูลค่าการซื้อขาย 129.41 ล้านบาท จากราคาเปิด 1.69 บาท ราคาสูงสุด 1.69 บาท และราคาต่ำสุด 1.64 บาท
บมจ. จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล [JAS] ซึ่งมีบริษัท จัสมิน ซับมารีน เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (JSTC) เป็นบริษัทย่อย แจ้งว่า เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 68 JSTC ได้รับทราบคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดที่ไม่รับอุทธรณ์ของ บมจ. โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) (หรือ บมจ. ทีโอที (TOT) เดิม) และเพิกถอนกระบวนพิจารณาของ NT ทั้งหมดเป็นเหตุให้คดีถึงที่สุด ส่งผลให้มีผลบังคับตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลางให้ NT ชำระเงิน 3,395,351,212 บาท พร้อมดอกเบี้ย ซึ่งคำนวณถึงวันที่ 31 ก.ค. 68 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 5,128,282,382 บาท ให้แก่ JSTC ภายใน 60 วัน หรือภายในวันที่ 28 ก.ย. 68
คดีนี้สืบเนื่องจากผลคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 66 สำหรับข้อพิพาทระหว่าง JSTC กับ NT เรื่องส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญาร่วมลงทุนสร้างโครงข่ายเคเบิ้ลใต้น้ำ (ฝั่งตะวันออก) ได้มีคำพิพากษาให้บังคับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ให้ NT รับผิดชำระเงินจำนวน 3,395,351,212 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย ซึ่งคำนวณถึงวันที่ 15 ก.พ.66 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4,678,488,033 บาท ต่อมา NT ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด
บล.กสิกรไทย ระบุว่า JAS ชนะข้อพิพาทกับ NT ที่มีมายาวนานในที่สุด โดยได้รับค่าชดเชยรวม 0.62 บาทต่อหุ้น แต่สามารถรับรู้เป็นกำไรได้เฉพาะในส่วนของดอกเบี้ยจำนวน 0.3 บาทต่อหุ้น การจ่ายเงินสดจะขึ้นอยู่กับกระแสเงินสดจากประมาณการของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก (EPL)
แนะนำ “ถือ” ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 68 ที่ 1.97 บาท คาดจะเห็นการเก็งกำไรเพิ่มเติมจากค่าชดเชยจำนวนมากที่ได้จากข้อพิพาท อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในการเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการ EPL ถือว่ามีความสำคัญมากกว่าอย่างชัดเจนเมื่อพิจารณาจากขนาดการลงทุนที่ 19.1 พันล้านบาท หรือ 2.22 บาทต่อหุ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ส.ค. 68)
