
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกประกาศปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund: Thai ESG) เพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนโทเคนดิจิทัลกลุ่มความยั่งยืน รวมทั้งเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้ผู้ประเมินด้านความยั่งยืนและการบริหารสภาพคล่อง และหลักเกณฑ์เกี่ยวกับคุณสมบัติกองทุนต่างประเทศที่กองทุนรวมไทยสามารถลงทุนได้ เพื่อเพิ่มทางเลือกการลงทุนในต่างประเทศให้แก่ผู้ลงทุนผ่านการลงทุนในกองทุนรวม รองรับพัฒนาการของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีความหลากหลาย โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป
ก.ล.ต.มีแนวคิดในการปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ Thai ESG และหลักเกณฑ์เกี่ยวกับคุณสมบัติกองทุนต่างประเทศที่กองทุนรวมไทยสามารถลงทุนได้ โดยได้เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อหลักการและร่างประกาศทั้ง 2 เรื่อง ในช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2568 ซึ่งผู้แสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่เห็นด้วยกับหลักการและร่างประกาศที่เสนอ
ก.ล.ต. จึงออกประกาศเพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมจำนวน 2 ฉบับ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
(1) หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวกับ Thai ESG
– ปรับปรุงข้อกำหนดเกี่ยวกับโทเคนดิจิทัลกลุ่มความยั่งยืนที่ Thai ESG สามารถลงทุนได้ โดยให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์การเสนอขายโทเคนดิจิทัลกลุ่มความยั่งยืน และหลักเกณฑ์การลงทุนของกองทุนรวมทั่วไป ซึ่งรวมถึงกองทุนรวมที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอื่น ๆ
– ปรับปรุงคุณสมบัติของผู้ประเมินฯ ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยผู้ประเมินฯ ที่ Thai ESG สามารถอ้างอิงผลการประเมินหุ้นด้านสิ่งแวดล้อมหรือความยั่งยืนจะต้องเปิดเผยข้อมูลอย่างน้อยเกี่ยวกับหลักการ (methodology) ที่ใช้ในการประเมินหุ้นหรือจัดทำดัชนีด้านสิ่งแวดล้อมหรือความยั่งยืน (ESG)
ทั้งนี้ การปรับปรุงหลักเกณฑ์ทั้ง 2 ข้อข้างต้น ครอบคลุมถึงการลงทุนของกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thailand ESG Extra Fund: Thai ESGX) ด้วย
– ยกเว้นให้ Thai ESG ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ ไม่ต้องปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติในการดำรงสภาพคล่อง เช่นเดียวกับกองทุนรวมที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่เป็นกองทุนรวมสิทธิประโยชน์ทางภาษีประเภทอื่น ๆ เนื่องจากกองทุนรวมดังกล่าวมีข้อกำหนดด้านระยะเวลาถือครองหน่วยลงทุน ทำให้ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องอยู่ในระดับต่ำ
(2) หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวกับคุณสมบัติกองทุนต่างประเทศที่กองทุนรวมไทยสามารถลงทุนได้ โดยเพิ่มเติมคุณสมบัติกองทุน CIS ต่างประเทศ ให้ครอบคลุมถึงกองทุน CIS ต่างประเทศที่หน่วยงานกำกับดูแลด้านหลักทรัพย์มิได้กำกับดูแลผู้บริหารกองทุน (CIS operator) โดยตรง โดยกองทุนดังกล่าวต้องมีการออกและการเสนอขายอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานต่างประเทศที่กำกับดูแลด้านหลักทรัพย์และตลาดซื้อขายหลักทรัพย์ซึ่งเป็นสมาชิกสามัญของ IOSCO และเป็นหน่วยของกองทุน CIS ต่างประเทศที่มีการซื้อขายในตลาดซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศที่เป็นสมาชิกของ World Federation of Exchanges ทั้งนี้ กองทุน CIS ต่างประเทศยังต้องมีคุณสมบัติอื่น ๆ (ยกเว้นเกณฑ์คุณสมบัติของ CIS operator) ตามที่หลักเกณฑ์กำหนดด้วย
การปรับหลักเกณฑ์ข้างต้น มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมธุรกิจที่มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่ Thai ESG รวมถึง Thai ESGX ลงทุนได้ อีกทั้ง การเพิ่มเติมคุณสมบัติกองทุน CIS ต่างประเทศ ยังเป็นการเพิ่มทางเลือกการลงทุนในต่างประเทศให้แก่ผู้ลงทุนผ่านการลงทุนในกองทุนรวม การออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ข้างต้นได้ลงราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ส.ค. 68)