ราคาหุ้นของบริษัทในกลุ่มเหมืองแร่หายาก อาทิ Lynas Rare Earths พุ่งขึ้นกว่า 6% ขณะที่หุ้น Iluka Resources และ Arafura Rare Earths ในตลาดหุ้นออสเตรเลียต่างทะยานขึ้นมากกว่า 8% ในวันนี้ (5 ส.ค.) ภายหลังจากที่ เมเดอลีน คิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรของออสเตรเลียเปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังพิจารณากำหนดราคาขั้นต่ำ (price floor) เพื่อสนับสนุนโครงการแร่สำคัญ รวมถึงแร่หายาก (rare earths)
ออสเตรเลียมุ่งวางตัวเป็นแหล่งแร่สำคัญทางเลือกนอกเหนือจากจีนซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยเน้นตอบสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์และกลาโหม อย่างไรก็ตาม ราคาของแร่บางชนิดยังคงต่ำเกินกว่าที่จะจูงใจให้มีการลงทุนในกระบวนการแปรรูปในบรรดาประเทศตะวันตก ทำให้จีนยังคงมีบทบาทหลักในฐานะซัพพลายเออร์
คิงระบุว่า กลไกราคาที่มีเสถียรภาพจะช่วยให้บริษัทและนักลงทุนไม่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากตลาดที่มีความผันผวน ขาดความโปร่งใส และอ่อนไหวต่อการถูกควบคุม โดยนโยบายสร้างคลังสำรองแร่ของออสเตรเลียมีจุดประสงค์เพื่อสร้างความแน่นอนด้านราคาให้แก่โครงการแร่ที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา เช่น แร่หายากชนิดหนัก (heavy rare earths) ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังพิจารณากลไกในการกำหนดราคาขั้นต่ำอย่างจริงจัง
เมื่อเดือนก.ค. บริษัท MP Materials ของสหรัฐฯ ได้ลงนามในข้อตกลงมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์กับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตแม่เหล็กจากแร่หายาก และลดการพึ่งพาจีนในห่วงโซ่อุปทานของอาวุธ รถยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ข้อตกลงนี้กำหนดให้มีราคาขั้นต่ำที่ผู้ซื้อจะต้องจ่าย ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าอาจส่งผลสะเทือนทั่วโลก แม้จะเป็นผลดีต่อผู้ผลิต แต่ก็อาจเพิ่มต้นทุนให้กับผู้ผลิตรถยนต์ และส่งต่อผลกระทบไปยังผู้บริโภคในท้ายที่สุด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ส.ค. 68)
