ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 4% ในวันนี้ (7 ส.ค.) ซึ่งจะเป็นการปรับลดดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 5 และจะทำให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2566 โดยจะส่งผลให้ BoE กลับมาเป็นผู้นำในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน แซงหน้าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งได้ปรับลดดอกเบี้ยลงรวม 1% ไปเมื่อปีที่แล้ว และล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ก.ค. เฟดยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่กรอบ 4.25%-4.5%
แม้มีแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นอีกครั้ง คณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) ยังคงดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง โดยเลือกที่จะทยอยผ่อนคลายมาตรการอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้ การคาดการณ์เศรษฐกิจที่ปรับปรุงใหม่คาดว่าจะสะท้อนแรงกดดันด้านราคาที่รุนแรงกว่าที่ประเมินไว้ในเดือนพ.ค.
ในขณะเดียวกัน สัญญาณชะลอตัวของเศรษฐกิจเริ่มชัดเจนขึ้น หลังเกิดภาวะหดตัวติดต่อกันในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ขณะที่ตลาดแรงงานยังเผชิญแรงกดดันจากการขึ้นภาษีเงินเดือนและการปรับค่าจ้างขั้นต่ำในเดือนเม.ย. ซึ่งส่งผลให้การจ้างงานเริ่มลดความร้อนแรงลง
บรรดานักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า MPC จะยังคงส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า การลดดอกเบี้ยจะยังดำเนินไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป
BoE มีกำหนดประกาศผลการประชุมในเวลา 12.00 น.ตามเวลาลอนดอน หรือตรงกับเวลา 18.00 น.ของวันนี้ (7 ส.ค.) ตามเวลาไทย จากนั้น แอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BoE จะแถลงข่าวในอีกครึ่งชั่วโมงถัดไป
ทั้งนี้ การปรับลดดอกเบี้ยในรอบนี้จะยังคงอยู่ภายใต้กรอบเดิมของการลด 1 ครั้งต่อไตรมาส ซึ่งสะท้อนถึงท่าทีที่รอบคอบของ BoE ในการรับมือกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและตลาดแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากภาษีที่เพิ่มขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ส.ค. 68)
