
โบ ไฮนส์ ผู้อำนวยการสภาที่ปรึกษาด้านสินทรัพย์ดิจิทัลประจำทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ได้โพสต์ข้อความทางเอ็กซ์ (X) เมื่อวานนี้ (9 ส.ค.) ว่า เขาได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งปัจจุบันเพื่อกลับไปทำงานในภาคเอกชน
ไฮนส์ได้โพสต์ข้อความบนเอ็กซ์ว่า “การได้ทำงานในรัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ และได้ทำงานร่วมกับเจ้าแห่งวงการ AI และคริปโทฯ ผู้ปราดเปรื่องของเราอย่างเดวิด แซคส์ ในฐานะผู้อำนวยการสภาคริปโทฯ ประจำทำเนียบขาวนั้น ถือเป็นเกียรติสูงสุดในชีวิตครับ”
ด้านเดวิด แซคส์ ซึ่งเป็นประธานสภาที่ปรึกษาประธานาธิบดีด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและเป็นผู้ที่ไฮนส์กล่าวถึงนั้น ก็ได้กล่าวชื่นชมไฮนส์เช่นกัน
เมื่อปลายเดือนที่แล้ว คณะทำงานด้านคริปโทเคอร์เรนซีซึ่งนำโดยไฮนส์และประกอบด้วยเจ้าหน้าที่รัฐบาลหลายคน ได้สรุปจุดยืนของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อกฎหมายคริปโทฯ และเรียกร้องให้หน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ออกกฎระเบียบใหม่สำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นการทำตามคำมั่นสัญญาในช่วงหาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะปรับปรุงนโยบายคริปโทฯ ของสหรัฐฯ
เมื่อเดือนที่แล้ว ทรัมป์ได้ลงนามในกฎหมาย GENIUS Act เพื่อสร้างระบบการกำกับดูแลสเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่อาจทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้กลายเป็นช่องทางหลักในการชำระเงินและโอนเงิน โดยไฮนส์เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนกฎหมายฉบับนี้
ตามกฎหมายนี้ สเตเบิลคอยน์ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ผูกค่าไว้กับเงินดอลลาร์หรือสกุลเงินที่รัฐบาลออก จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และสำนักงานกำกับดูแลสกุลเงิน (OCC) นอกจากนี้ ผู้ออกสเตเบิลคอยน์ต้องเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์สำรองเป็นประจำ ซึ่งประกอบด้วยเงินสด เงินฝากกระแสรายวัน พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และ สินทรัพย์ที่ได้รับอนุมัติอื่น ๆ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ส.ค. 68)