
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เผยการใช้สิทธิ FTA ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 68 (ม.ค.-พ.ค.) มีมูลค่ารวม 37,314.46 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,343,320.50 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 79.39% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ได้รับสิทธิฯ เพิ่มขึ้น 8.60% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
- อันดับหนึ่ง เป็นการส่งออกไปยังอาเซียนภายใต้ความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA) มูลค่า 13,127.82 ล้านดอลลาร์ มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 67.19%
- อันดับสอง เป็นการใช้สิทธิฯ ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) มูลค่า 10,145.57 ล้านดอลลาร์ สัดส่วนการใช้สิทธิฯ 92.29%
- อันดับสาม ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-อินเดีย (AIFTA) มูลค่า 5,051.47 ล้านดอลลาร์ สัดส่วนการใช้สิทธิฯ 78.80%
- อันดับสี่ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) มูลค่า 2,520.03 ล้านดอลลาร์ สัดส่วนการใช้สิทธิฯ 73.03%
- อันดับห้า ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) มูลค่า 2,354.35 ล้านดอลลาร์ สัดส่วนการใช้สิทธิฯ 58.49%
ภาพรวมสินค้า 5 อันดับแรกที่มีการใช้สิทธิ FTA ส่งออกมากที่สุด ได้แก่
- ยานยนต์สำหรับขนส่งของอื่น ๆ (ที่มีเครื่องดีเซล หรือกึ่งดีเซล) น้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 5 ตัน มูลค่า 2,728.55 ล้านดอลลาร์
- ทุเรียนสด มูลค่า 2,255.34 ล้านดอลลาร์
- แพลทินัมยังไม่ได้ขึ้นรูป (อันรอต) กึ่งสำเร็จรูปหรือเป็นผง มูลค่า 1,655.82 ล้านดอลลาร์
- ยางสังเคราะห์ผสมยางธรรมชาติ มูลค่า 1,492.18 ล้านดอลลาร์
- น้ำตาลที่ได้จากอ้อย มูลค่า 792.72 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศติดตามการใช้สิทธิประโยชน์ฯ ของ FTA 12 ฉบับ จาก 14 ฉบับทั้งหมดของไทย ซึ่งไม่รวมความตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น ไทย-นิวซีแลนด์ (TNZCEP) ที่ใช้การรับรองตนเองของผู้ส่งออก (Self-Declaration) ลงบนเอกสารทางการค้า โดยไม่ผ่านกรมการค้าต่างประเทศ และความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง (AHKFTA) เนื่องจากฮ่องกงเป็น Free Port มีอัตราภาษีนำเข้าที่ 0% ทุกรายการ
สำหรับการใช้สิทธิฯ ในเดือน พ.ค.68 พบว่า นอกจากตลาดอินเดียที่มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-อินเดียที่เพิ่มขึ้นแล้ว อีกประเทศที่น่าสนใจ คือ เกาหลีใต้ ซึ่งไทยและเกาหลีใต้มี FTA ร่วมกัน 2 ฉบับ ได้แก่ ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-เกาหลี (AKFTA) และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP)
โดยทั้งสองฉบับมีมูลค่าการใช้สิทธิฯ ในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ค.68 เพิ่มขึ้นทั้งคู่ แบ่งเป็น AKFTA มูลค่า 1,525.04 ล้านดอลลาร์ หรือ 50,683.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.72% และ RCEP มูลค่า 568.72 ล้านดอลลาร์ หรือ 18,422.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.72% สินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ ปรับตัวสูงขึ้นเป็นอย่างมาก ได้แก่ ยางธรรมชาติ (ทีเอสเอ็นอาร์) โดยมีมูลค่าการใช้สิทธิ AKFTA อยู่ที่ 77.63 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 307.89% และน้ำตาลที่ได้จากอ้อยอยู่ที่ 130.88 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 28.29%
นอกจากนี้ ไทยและเกาหลีใต้อยู่ระหว่างการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-เกาหลีใต้ หรือ Korea-Thailand Economic Partnership Agreement (KTEPA) โดยทั้งสองฝ่ายได้ตั้งเป้าหมายการเจรจาให้ได้ข้อสรุปภายในปี 2568 เพื่อให้สามารถลงนามความตกลงฯ หรือประกาศความสำเร็จในช่วงการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (APEC) ในเดือน ต.ค.68
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมการค้าและขยายโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการไทย มุ่งเน้นการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ FTA โดยในปีงบประมาณ 2568 กรมการค้าต่างประเทศได้จัดสัมมนาเพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ ภายใต้โครงการส่งเสริม SMEs ให้แข่งขันได้ในตลาดสากลมาแล้วรวม 9 ครั้งทั่วประเทศ มีผู้สนใจเข้าร่วมมาแล้ว 1,171 คน โดยมีกำหนดจัดงานสัมมนาครั้งที่ 10 ที่จังหวัดชลบุรีระหว่างวันที่ 25-26 ส.ค.68 ณ โนโวเทล มารีน่า ศรีราชา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ส.ค. 68)