WICE เก็งข้อสอบครึ่งปีหลังธุรกิจฟื้นรับดีมานด์ขนส่งโต คงเป้าปั๊มรายได้โตทะลุ 15%

นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ส่วนงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มบริษัท บมจ.ไวส์ โลจิสติกส์ [WICE] เปิดเผยว่า ทิศทางครึ่งปีหลัง 2568 บริษัทคาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น สะท้อนได้จากปริมาณความต้องการขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาระบบการให้บริการ และ วางแผนขยายเส้นทางการขนส่งที่มีศักยภาพในประเทศที่ต้องการย้ายฐานการผลิต และ กลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียที่มีความต้องการขนส่งมากขึ้นจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ พร้อมเชื่อมต่อทุกเส้นทางขนส่งระหว่างสาขาให้มีความครอบคลุมยิ่งขึ้น

“บริษัทยังคงเฝ้าระวังปัจจัยที่ยังคงมีแนวโน้มผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจระดับโลก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างใกล้ชิด อาทิ การปรับภาษีนำเข้า-ส่งออก ของสหรัฐอเมริกา และ ในภูมิภาคเอเชียที่มีความชัดเจนขึ้น, ค่าเงิน, น้ำมัน และ ค่าระวางเรือ พร้อมวางแผนปรับกลยุทธ์การดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และมุ่งเน้นบริหารต้นทุนการดำเนินงานเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไรที่ดี และ สร้างรายได้ให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตทั้งปีไม่ต่ำกว่า 15%” นายชูเดช กล่าว

สำหรับผลประกอบการช่วงครึ่งปีแรก บริษัทสามารถรักษาอัตราการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากการบริการ 2,289 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการบริการ 2,037 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.4% และมีกำไรสุทธิ 80 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 113 ล้านบาท

ขณะที่ช่วงไตรมาส 2/68 มีรายได้จากการบริการ 1,229 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการบริการ 1,075 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.3% และ มีกำไรสุทธิ 23 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 75 ล้านบาท

บริษัทสามารถรับรู้รายได้จากปริมาณการใช้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขนส่งข้ามพรมแดน (Cross Border Services) ที่เชื่อมโยงเครือข่ายครอบคลุมทั้งจีนถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ การบริการซัพพลายเชน โซลูชั่นส์ อีกทั้งการให้บริการขนส่งในรูปแบบที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า อาทิ การขนส่งแบบไม่เต็มตู้ (Less Truck Load) และ บริการขนส่งสินค้าแบบตู้ควบคุมอุณหภูมิ (Reefer Container) รวมถึงการขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นของบริการ On-Site Warehouse Management ส่งผลให้มีลูกค้าเพิ่มขึ้นในสัญญาระยะยาว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ส.ค. 68)