SABINA ปรับกลยุทธ์รุกตลาดครึ่งปีหลังเพิ่มความหลากหลายสินค้า แย้มช่องทาง OEM แนวโน้มดีกว่าคาด

นางสาวดวงดาว มหะนาวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซาบีน่า [SABINA] เปิดเผยว่า SABINA ยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรในไตรมาส 2/68 และครึ่งแรกของปี 68 ไว้ได้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนและปัจจัยท้าทายทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะความไม่แน่นอนจากนโยบายด้านภาษีของสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค

อย่างไรก็ตาม SABINA ยังเดินหน้าประคับประคองยอดขายภายใต้ปัจจัยบวกที่มีอย่างจำกัด พร้อมกับบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัทสามารถสร้างเติบโตของอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ในช่วง 6 เดือนแรกไว้ได้ที่ 49.8% เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 67 ซึ่งอยู่ที่ 49.3% โดยอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ที่ 12%

  • “ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เราจัดแคมเปญกระตุ้นกำลังซื้อ ด้วยการเปิดตัวสินค้าที่ร่วมมือกับ Butterbear เจ้าของคาแรกเตอร์ “น้องเนย” ในคอลเลคชั่น Butterbear x SABINA-I Love BKK ซึ่งเป็นสินค้าในกลุ่มไลฟ์สไตล์ทั้งชุดนอนและชุดลำลอง หลังจากนั้น เราจับมือกับแบรนด์ชุดว่ายน้ำ Aprilpoolday เปิดตัวคอลเลคชั่นพิเศษ “Sabina x Aprilpoolday” เพื่อตอกย้ำเป้าหมายในการเป็นมากกว่าชุดชั้นในของ SABINA รวมถึงตอกย้ำความเป็นแบรนด์ไทยที่พร้อมจะผนึกความร่วมมือกับแบรนด์ไทย เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง และพร้อมที่จะก้าวไปสู่ตลาดในระดับภูมิภาคในอนาคต” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABINA กล่าว

นอกจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์แล้ว ในไตรมาสที่ 2/68 ยังเดินหน้าขยายช่องทางการตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายด้วยการจับมือกับไลน์แมน (LINE MAN) เปิดตัวบริการใหม่ “ซาบีน่า บน ไลน์แมน” (Sabina บน LINE MAN) ที่ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าจากสาขาใกล้บ้าน พร้อมบริการจัดส่งรวดเร็วถึงหน้าบ้านภายในเวลาไม่กี่นาที พร้อมกับการปรับโครงสร้างการผลิตเพื่อควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัทฯ ยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรทั้งในไตรมาสที่ 2/68 และ 6 เดือนแรกของปีนี้ไว้ได้อย่างน่าพอใจ

สำหรับช่วงครึ่งหลังของปีนี้ SABINA ยังคงมุ่งมั่นเพิ่มความหลากหลายของสินค้าให้ครอบคลุมทุกความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย พร้อมกับจะรุกทำตลาดสินค้าที่เป็นไฮไลท์ และเป็นสินค้าขายดีของ SABINA อีกครั้ง ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังได้มีปัจจัยบวกจากยอดขายในช่องทางรับจ้างผลิต (OEM) ที่มีแนวโน้มจะเติบโตมากกว่าที่คาด ถึงแม้สัดส่วนรายได้ของช่องทางนี้จะอยู่ประมาณ 6% ของรายได้จากการขายทั้งหมด แต่สินค้ารับจ้างผลิตให้กับลูกค้าในยุโรปและสหราชอาณาจักรเป็นสินค้าที่มีมาร์จินสูง และเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่ม (Niche Product) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการรักษาอัตรากำไรของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/68 บริษัทมีรายได้รวม 848.2 ล้านบาท ลดลง 6.3% YoY และเพิ่มขึ้น 0.4% QoQ รายไดรวมปี 2568 ครึ่งปีแรก เท่ากับ 1,693.3 ล้านบาท ลดลง 6.5% จากปี 2567 ครึ่งปีแรก โดยแบ่งเป็นยอดขายในประเทศ Sabina Brand (Retailer) 971.9 ลานบาท ลดลง 12.5% เมื่อเทียบกับปี 2567 ครึ่งปีแรก ยอดขาย Non Store Retailing 611.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.6% YoY ยอดขาย OEM 102.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.5% YoY ขณะที่ กำไรสุทธิไตรมาส 2/68 เท่ากับ 100.4 ล้านบาท ซึ่งลดลง 14.8%YoY กำไรสุทธิปี 2568 ครึ่งปีแรก 203.1 ล้านบาท ลดลง 15.6% YoY

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ส.ค. 68)