สำนักงานสถิติแห่งชาติอิสราเอลเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) หดตัวลง 3.5% ในไตรมาส 2/2568 เมื่อเทียบรายปี สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.2% และร่วงลงอย่างมากจากไตรมาส 1/2568 ที่ขยายตัว 3.4% เนื่องจากการทำสงครามกับอิหร่านเป็นเวลา 12 วันได้ทำให้ธุรกิจจำนวนมากของอิสราเอลต้องปิดดำเนินการในช่วงเวลาดังกล่าว
สำนักงานสถิติฯ ระบุว่า การทำสงคราม 12 วันกับอิหร่านได้ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายด้านการอุปโภคบริโภคในภาคเอกชน โดยปรับตัวลง 4.1% ขณะที่การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร เช่น สิ่งปลูกสร้างและเครื่องจักร ร่วงลงรุนแรงถึง 12.3%
อิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีอิหร่านเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. โดยมีเป้าหมายเพื่อทำลายโครงการนิวเคลียร์และโครงสร้างพื้นฐานด้านการทหารของอิหร่าน โดยอ้างว่าสิ่งเหล่านี้เป็นภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของอิสราเอล ขณะที่อิหร่านได้ตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธ ซึ่งส่งผลให้ชาวอิสราเอลจำนวนมากต้องอพยพไปยังที่หลบภัยชั่วคราว
ทั้งนี้ ธนาคารกลางอิสราเอลคาดการณ์เมื่อเดือนก.ค.ว่า GDP ปี 2568 จะขยายตัว 3.3% ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเม.ย.ว่า GDP จะขยายตัว 3.5% ในปีนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ส.ค. 68)
