ผลวิจัยน่าห่วง วัยรุ่นออสซี่ 1 ใน 3 เคยคิดฆ่าตัวตาย

สถาบันการศึกษาด้านครอบครัวแห่งออสเตรเลีย (AIFS) ซึ่งเป็นหน่วยงานของภาครัฐ เปิดเผยในวันนี้ (19 ส.ค.) ว่า วัยรุ่นชาวออสเตรเลีย 1 ใน 3 เคยมีความคิดฆ่าตัวตายในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา

รายงานของ AIFS ระบุว่า 34% ของชาวออสเตรเลียที่มีอายุระหว่าง 14-19 ปี เคยมีทั้งความคิดและพฤติกรรมเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยในกลุ่มนี้ วัยรุ่นเพศหญิง 38% และวัยรุ่นเพศชาย 31% เคยมีความคิดหรือพฤติกรรมเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายในช่วงเวลาดังกล่าว

รายงานนี้รวบรวมข้อมูลมาจาก Longitudinal Study of Australian Children (LSAC) ซึ่งเป็นการสำรวจครั้งใหญ่ที่ดำเนินการโดย AIFS โดยติดตามพัฒนาการของเด็ก 10,000 คนและครอบครัวมาตั้งแต่ปี 2547

รายงานยังระบุด้วยว่า ความคิด การวางแผน และการพยายามฆ่าตัวตาย พุ่งสูงสุดในช่วงอายุ 16-17 ปีสำหรับเพศหญิง ก่อนที่จะลดลง ส่วนเพศชายก็มีจุดสูงสุดในช่วงอายุ 16-17 ปีเช่นกัน แต่ยังคงอยู่จนถึงอายุ 18-19 ปี

รายงานระบุว่า 9% ของวัยรุ่นเพศชาย และ 6% ของวัยรุ่นเพศหญิงที่มีอายุระหว่าง 14-19 ปี พยายามฆ่าตัวตายโดยไม่เคยมีความคิดหรือวางแผนฆ่าตัวตายมาก่อน

“ผลวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่า ความคิดและพฤติกรรมการฆ่าตัวตายในกลุ่มเยาวชนมีความซับซ้อน คาดเดาได้ยาก และมักไม่เป็นแบบแผน” อกาธา ฟอล์กเนอร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายสำรวจของ AIFS ระบุ “เยาวชนบางคนพยายามฆ่าตัวตายโดยไม่เคยมีความคิดหรือวางแผนไว้ล่วงหน้า ซึ่งสร้างความตกใจให้กับครอบครัวและเพื่อนฝูง ในการศึกษาของเรานั้น ตัวเลขนี้พุ่งสูงสุดในช่วงอายุ 14-15 ปีสำหรับเพศชาย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการสนับสนุนด้านสุขภาพจิตควรเริ่มตั้งแต่เนิ่น ๆ”

ทั้งนี้ เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา สถาบันสุขภาพและสวัสดิการแห่งออสเตรเลีย (AIHW) รายงานว่า ในปี 2566 การฆ่าตัวตายเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของชาวออสเตรเลียในช่วงอายุ 15-24 ปี และ 25-44 ปี

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ส.ค. 68)