สหรัฐฯ กำลังดำเนินการจัดซื้อแร่โคบอลต์เป็นมูลค่าสูงสุดถึง 500 ล้านดอลลาร์ เข้าสู่คลังสำรองของกระทรวงกลาโหม ในช่วงเวลาที่สหรัฐฯ กำลังพยายามเพิ่มปริมาณแร่ธาตุสำคัญของประเทศ
ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศใช้อำนาจฉุกเฉินเพื่อสนับสนุนการผลิตแร่ธาตุสำคัญภายในประเทศ ซึ่งเป็นความพยายามที่จะลดการพึ่งพาจีนซึ่งควบคุมอุตสาหกรรมนี้เกือบทั้งหมด โดยขณะนี้ บริษัทต่าง ๆ ของสหรัฐฯ กำลังเร่งหาแหล่งแร่หายาก หลังจากที่จีนประกาศจำกัดการส่งออก ซึ่งทำให้การส่งออกแม่เหล็กจากแร่หายากจากจีนลดลงถึง 75% ในเดือนมิ.ย. และส่งผลให้บริษัทผลิตรถยนต์บางแห่งต้องระงับการผลิตชั่วคราว
รายงานระบุว่า ทำเนียบขาวได้แต่งตั้งเดวิด คอปลีย์ อดีตผู้บริหารบริษัทเหมืองแร่นิวมอนต์ (Newmont) ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานฝ่ายกิจการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดสภาความมั่นคงแห่งชาติ
เอกสารการประมูลที่เผยแพร่โดยกระทรวงกลาโหมและสำนักงานโลจิสติกส์ด้านกลาโหม (DLA) ของสหรัฐฯ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (20 ส.ค.) ระบุว่า ทางกระทรวงกำลังมองหาข้อเสนอสำหรับแร่โคบอลต์เกรดอัลลอยประมาณ 7,480 ตัน ตลอดระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ เอกสารดังกล่าวยังระบุด้วยว่า มูลค่าการจัดซื้ออาจอยู่ในช่วง 2 – 500 ล้านดอลลาร์ ในระยะเวลา 5 ปี
โคบอลต์ซึ่งส่วนใหญ่สหรัฐฯ ต้องนำเข้าจากต่างประเทศนั้น ถูกนำไปใช้ในแบตเตอรี และเป็นส่วนประกอบในซูเปอร์อัลลอยนิกเกิล (nickel superalloys) สำหรับชิ้นส่วนที่ต้องทนความร้อนสูงในเครื่องยนต์ไอพ่นและกังหันก๊าซอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมได้จำกัดการรับข้อเสนอจากเพียงสามบริษัทเท่านั้น ซึ่งได้แก่ บริษัทในเครือของเวล (Vale) จากแคนาดา, ซูมิโตโม เมทัล ไมนิง (Sumitomo Metal Mining) ของญี่ปุ่น และเกลนคอร์ นิกเกลเวิร์ค (Glencore Nikkelverk) ของนอร์เวย์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ส.ค. 68)
