ประธานาธิบดี อี แจ-มยอง ของเกาหลีใต้ เตรียมเดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อพบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการประชุมสุดยอดครั้งแรกในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าการหารือจะมุ่งเน้นไปที่ประเด็นความมั่นคงและจีน ขณะเดียวกันผู้นำสหรัฐฯ จะผลักดันให้เกาหลีใต้เพิ่มงบประมาณสนับสนุนการดูแลกองทัพอเมริกันที่ประจำการอยู่บนคาบสมุทรเกาหลี
หนึ่งในประเด็นท้าทายสำหรับอีคือแรงกดดันจากทรัมป์ที่ต้องการให้เกาหลีใต้จ่ายเงินเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพื่อดูแลทหารสหรัฐฯ จำนวน 28,500 นายที่ยังประจำการอยู่ในเกาหลีใต้ตั้งแต่สงครามเกาหลี (พ.ศ. 2493–2496)
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า การแบ่งภาระค่าใช้จ่ายจะเป็นหัวข้อหลักที่ถูกหยิบยกขึ้นในการประชุม และทรัมป์มีแนวโน้มที่จะกดดันเกาหลีใต้ให้รับภาระมากกว่าเดิม
แม้เกาหลีใต้มีบทบาทจำกัดในกระบวนการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ ที่สิ้นสุดด้วยข้อตกลงไม่เป็นลายลักษณ์อักษรเมื่อเดือนก่อน แต่อนาคตของพันธมิตรเกาหลีใต้–สหรัฐฯ รวมถึงแนวทางรับมือเกาหลีเหนือที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ จะกลายเป็นหัวข้อสำคัญบนโต๊ะหารือที่ทำเนียบขาว
ปัจจุบันเกาหลีใต้จ่ายเงินมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ต่อปีเพื่อสนับสนุนการประจำการของกองทัพสหรัฐฯ และยังลงทุนสร้างค่ายทหารแคมป์ฮัมฟรีส์ ซึ่งเป็นฐานทัพต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม วิคเตอร์ ชา จากศูนย์ยุทธศาสตร์และนานาชาติศึกษา (CSIS) ในกรุงวอชิงตัน ระบุว่า ทรัมป์ต้องการมากกว่านั้น โดยเคยเรียกร้องให้เกาหลีใต้เพิ่มค่าใช้จ่ายถึง 5 พันล้านหรือแม้แต่ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ พร้อมผลักดันให้พันธมิตรทุกประเทศใช้งบกลาโหมใกล้ระดับ 5% ของจีดีพี ในขณะที่ของเกาหลีใต้อยู่ที่ราว 3.5% ในปัจจุบัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ส.ค. 68)
