นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม ยอมรับว่า โครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย คงไม่สามารถเริ่มใช้ได้ทันตามกำหนดเดิมในวันที่ 1 ต.ค.68 เนื่องจากการทำโครงการนี้ จำเป็นต้องผ่านกฎหมาย 3 ฉบับ ประกอบด้วย ร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง พ.ศ… ร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. … และ พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2543 แต่การพิจารณากฎหมายล่าช้า เป็นเพราะปัญหาเรื่ององค์ประชุมของสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น ตนจึงพยายามคิดแผนสองว่าจะเสนอขอใช้งบกลางเข้ามาช่วยได้หรือไม่ แต่หลังจากปรึกษากับคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว ได้รับคำตอบว่า หากจะใช้งบกลาง จะต้องเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ไม่เข้าองค์ประกอบนี้
สำหรับสิ่งที่ทำได้ในขณะนี้ ต้องพยายามผ่านร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ และ พ.ร.บ.รฟม. ในสภาฯ ให้จบได้ จากนั้นเมื่อเข้าสู่กระบวนการหลังโปรดเกล้าฯ แล้ว จะต้องออกกฎหมายลูก และมีกระบวนการต่าง ๆ เช่น การรับฟังความคิดเห็น แต่เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ตนจะเสนอ ครม.ขอให้เว้นการรับฟังความคิดเห็น เนื่องจากโครงการ 20 บาทตลอดสาย เป็นผลบวกกับประชาชน ไม่มีผลลบ
“กฤษฎีกาบอกว่าทำได้ ถ้าเป็นไปตามนี้ ก็จะสามารถใช้รถไฟฟ้า 20 ตลอดสายได้ในช่วงกลางเดือนพ.ย.นี้ หากถามว่าช้าไปหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าช้าเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ ถือว่าเยอะ จึงต้องกราบขอโทษประชาชน ที่รอความหวัง” นายสุริยะ กล่าว
ทั้งนี้ การลงทะเบียนร่วมโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายนั้น นายสุริยะ กล่าวว่า ประชาชนยังสามารถลงทะเบียนได้ตลอด เพราะกว่าจะเริ่มใช้จริง คงเป็นเดือนพ.ย. ในระหว่างนี้ประชาชนก็ต้องจ่ายค่าโดยสารรถไฟฟ้าในราคาเต็มไปก่อน
ส่วนกรณีรถไฟฟ้าสายสีแดง และสายสีม่วง ที่จะสิ้นสุดการคิดค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย ในเดือนก.ย.68 นั้น นายสุริยะ กล่าวว่า เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะไม่ได้สิ้นสุดในเดือนก.ย.นี้ โดยรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย ยังใช้อัตราค่าโดยสารในราคา 20 บาทไปได้เรื่อย ๆ จนกว่าโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จะเริ่มดำเนินการ
“ไม่ได้สิ้นสุดสิ้นเดือน ก.ย. เป็นความเข้าใจผิด ข้อมูลที่ออกไปไม่ถูกต้อง เพราะสามารถใช้ได้เรื่อย ๆ จนกว่าโครงการ 20 บาทตลอดสายจะดำเนินการได้” รองนายกฯ และรมว.คมนาคม ระบุ
ด้านนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม กล่าวว่า กฎหมายทั้ง 3 ฉบับไม่ได้กังวลในขั้นตอนการพิจารณาของสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งเมื่อวานนี้ได้มีการทำความเข้าใจแล้วว่า นโยบายนี้มีส่วนสำคัญ และ สว. จะมีการเร่งพิจารณาให้โดยเร็ว
สำหรับขั้นตอนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.รฟม. และร่างพ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ กระทรวงคมนาคมก็จะเร่งจัดทำให้เร็วที่สุด และส่งให้สมาชิกวุฒิสภาพิจารณาในวันจันทร์ที่ 1 ก.ย.นี้ สำหรับการแก้ไขร่างกฎหมายขนส่งทางรางมีทั้งหมด 165 มาตรา แต่มีการแก้ไขเพียง 43 มาตรา และร่างดังกล่าวผ่านการคัดกรองจากทุกภาคส่วนซึ่งคิดว่าไม่มีอะไรน่ากังวล
ส่วนกรณีที่รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำจะส่งผลกระทบต่อการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้หรือไม่ นางมนพร กล่าวว่า ทางรัฐบาลและฝ่ายค้านตั้งใจจะให้เกิดโครงการนี้ เพราะแม้กระทั่งการโหวตฝ่ายค้านก็เห็นด้วย ขณะที่ปัญหาต่าง ๆ ก็จะมีการมาแก้ไขและพูดคุยกันในกระทรวงคมนาคม
นางมนพร ยังกล่าวว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวจะไม่เหมือนการพิจารณาร่างกฎหมายประชามติ ที่จะต้องแช่ไว้ 6 เดือน หากสมาชิกวุฒิสภาไม่เห็นด้วยซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นร่างกฎหมายทางการเงิน ดังนั้นจะดำเนินการให้เร็วที่สุดในขั้นตอนกระบวนการของ 2 สภา ยืนยันจะมีโอกาสใช้โครงการนี้ภายในปีนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ส.ค. 68)
