จุนโกะ นากากาวะ สมาชิกคณะกรรมการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวในวันนี้ (28 ส.ค.) ว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายอัตราภาษีของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับสูง และอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นและเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ หลังจาก BOJ ยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่ดำเนินมายาวนานถึงหนึ่งทศวรรษในปีที่ผ่านมา BOJ ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.5% ในเดือนม.ค. เนื่องจากมองว่าญี่ปุ่นใกล้จะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน
แม้ BOJ คงอัตราดอกเบี้ยไว้ในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา แต่ธนาคารได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อและแสดงมุมมองเศรษฐกิจที่ไม่ได้เลวร้ายจนเกินไป ทำให้ตลาดยังคงคาดว่า BOJ อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ โดยนักเศรษฐศาสตร์เกือบ 2 ใน 3 คาดว่า BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 0.25% ในปีนี้
นากากาวะยังได้เน้นถึงความสำคัญของผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจ “ทังกัน” (tankan) ของ BOJ ที่จะประกาศในเร็ว ๆ นี้ เพราะผลสำรวจดังกล่าวจะช่วยประเมินผลกระทบจากความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ
ในคำปราศรัยที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของ BOJ นั้น นากากาวะกล่าวว่า ในสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ BOJ จะยังคงประเมินข้อมูลอย่างรอบคอบและตัดสินใจด้านนโยบายการเงินอย่างเหมาะสม
ตามมุมมองของตลาดนั้น นากากาวะซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธานของบริษัท Nomura Asset Management ถือเป็นผู้ที่มีท่าทีที่เป็นกลางต่อการกำหนดนโยบายการเงิน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ส.ค. 68)
