
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกในวันนี้ (4 ก.ย.) หลังการเปิดเผยข้อมูลแรงงานล่าสุดของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 42,093.70 จุด เพิ่มขึ้น 154.81 จุด หรือ +0.37%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 25,489.13 จุด เพิ่มขึ้น 145.7 จุด หรือ +0.57% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,807.76 จุด ลดลง 5.80 จุด หรือ -0.15%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวขึ้น 0.67% ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้บวก 0.45%
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ลดลง 170,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 7.18 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 7.38 ล้านตำแหน่ง เนื่องจากมาตรการภาษีศุลกากรของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ทำให้ภาคธุรกิจเกิดความลังเลในการจ้างงาน
ทั้งนี้ ตัวเลข JOLTS เป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญ โดยมองว่าเป็นมาตรวัดอุปสงค์และภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ยของเฟด
หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลดังกล่าว นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเกือบ 100% ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมวันที่ 17 ก.ย.
ด้านคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ สมาชิกคณะผู้ว่าการเฟดได้ส่งสัญญาณสนับสนุนการปรับลดดอกเบี้ย โดยเขาเปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า “ในขณะที่ตลาดแรงงานเริ่มแย่ลง ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่จะถึงนี้ โดยเราสามารถปรับอัตราดอกเบี้ยตามสถานการณ์ และผมไม่กังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อจากการเรียกเก็บภาษีศุลกากร”
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 74,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 73,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.3% ในเดือนส.ค. จากระดับ 4.2% ในเดือนก.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ก.ย. 68)