
แนสแด็ก (Nasdaq) ซึ่งเป็นผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เตรียมนำมาตรฐานการจดทะเบียนในตลาดหุ้นที่มีความเข้มงวดมากขึ้นมาใช้ ซึ่งรวมถึงการกำหนดจำนวนหุ้นหมุนเวียน (Public Float) ในตลาดขั้นต่ำที่สูงขึ้นสำหรับบริษัทที่เข้าจดทะเบียนใหม่บางแห่ง และทำให้กระบวนการเพิกถอนบริษัทที่มีปริมาณการซื้อขายเบาบางมีความรวดเร็วมากขึ้น โดยกฎระเบียบใหม่นี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มมาตรฐานสภาพคล่องขั้นต่ำ และเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามเพื่อควบคุมการปั่นราคาหุ้นในตลาดที่อาจเกิดขึ้นได้
แนสแด็กระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ในวันพุธ (3 ก.ย.) ว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากได้มีการทบทวนกิจกรรมการซื้อขาย ซึ่งรวมถึงรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับ “การปั่นหุ้นแบบ pump-and-dump ที่อาจเกิดขึ้นได้ในสภาพแวดล้อมการซื้อขายข้ามตลาดของสหรัฐฯ” ซึ่งรูปแบบการซื้อขายดังกล่าวถือการปั่นราคาเพื่อผลักดันราคาหุ้น
นอกจากนี้ แนสแด็กจะกำหนดให้บริษัทที่ดำเนินงานหลักในจีนต้องระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นแก่สาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ขั้นต่ำ 25 ล้านดอลลาร์จึงจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดได้
ภายใต้กฎระเบียบใหม่นี้ บริษัทที่เข้าจดทะเบียนใหม่ภายใต้มาตรฐานรายได้สุทธิของแนสแด็ก จะต้องมีมูลค่าตลาดที่ปรับตามหุ้นหมุนเวียนแล้วขั้นต่ำ 15 ล้านดอลลาร์ โดยเกณฑ์ในปัจจุบันอยู่ที่อย่างน้อย 5 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ แนสแด็กจะผลักดันให้กระบวนการระงับและเพิกถอนบริษัทที่มีข้อบกพร่องในการจดทะเบียนและมีมูลค่าตลาดต่ำกว่า 5 ล้านดอลลาร์ มีความรวดเร็วมากขึ้น
ทั้งนี้ แนสแด็กได้ดำเนินการตรวจสอบเป็นเวลาหลายปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสกัดความร้อนแรงของหุ้นบริษัทจีนขนาดเล็ก หลังจากราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยบริษัทขนาดเล็กของจีนเหล่านี้ระดมทุนได้เพียงเล็กน้อยในการเสนอขายหุ้น IPO ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อนักลงทุน เนื่องจากราคาหุ้นจีนบางตัวพุ่งขึ้นถึง 2000% ในการซื้อขายวันแรก ก่อนที่จะทรุดตัวลงในเวลาต่อมา
ผู้บริหารแนสแด็กได้ยื่นเสนอกฎระเบียบใหม่นี้ให้กับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) เพื่อตรวจสอบ และหากได้รับการอนุมัติ ก็จะนำมาบังคับใช้ในทันที
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.ย. 68)