
ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นในวันนี้ (5 ก.ย.) ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันพฤหัสบดี (4 ก.ย.) โดยได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังมีข้อมูลบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของตลาดแรงงาน
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นเอเชียยังปรับตัวขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อบังคับใช้ข้อตกลงการค้าระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ โดยข้อตกลงระบุว่าอัตราภาษีรถยนต์ที่สหรัฐฯ นำเข้าจากญี่ปุ่นจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 15% จากระดับ 27.5% และญี่ปุ่นจะลงทุนในโครงการต่าง ๆ ของสหรัฐฯ เป็นมูลค่ารวม 5.50 แสนล้านดอลลาร์
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 42,890.85 จุด เพิ่มขึ้น 310.58 จุด หรือ +0.73%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 25,212.85 จุด เพิ่มขึ้น 154.34 จุด หรือ +0.62% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,778.95 จุด เพิ่มขึ้น 13.08 จุด หรือ +0.35%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวขึ้น 0.40% และดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้บวก 0.16%
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 8,000 ราย สู่ระดับ 237,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 231,000 ราย
ขณะที่ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียง 54,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 75,000 ตำแหน่ง หลังจากพุ่งขึ้น 104,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.
ข้อมูลทั้งสองรายการบ่งชี้ถึงความอ่อนแอของตลาดแรงงานสหรัฐฯ และทำให้นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 17 ก.ย. ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดแรงงานและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.ย. 68)