นักแสดง เอนเตอร์เทนเนอร์ และโปรดิวเซอร์กว่า 1,800 ชีวิต รวมถึงดาราฮอลลีวูดบางคน ร่วมลงนามในคำมั่นสัญญาในวันจันทร์ (8 ก.ย.) ว่า จะไม่ทำงานร่วมกับสถาบันภาพยนตร์ของอิสราเอล ซึ่งพวกเขามองว่ามีส่วนรู้เห็นกับการละเมิดสิทธิของชาวปาเลสไตน์ ขณะที่วิกฤตด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซาจากการโจมตีทางทหารของอิสราเอลทวีความรุนแรงขึ้น
บางบริษัทเผชิญกับเสียงเรียกร้องให้ถูกคว่ำบาตรและถูกประท้วงเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับรัฐบาลอิสราเอล อย่างไรก็ตาม คำมั่นดังกล่าวไม่ได้เรียกร้องให้ใครหยุดทำงานกับชาวอิสราเอล แต่เป็นการเรียกร้องให้คนทำงานด้านภาพยนตร์ปฏิเสธที่จะทำงานกับสถาบันของอิสราเอลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนของชาวปาเลสไตน์
คำมั่นสัญญาระบุว่า “ด้วยแรงบันดาลใจจากกลุ่มผู้สร้างภาพยนตร์ที่รวมตัวกันต่อต้านการแบ่งแยกสีผิว (Filmmakers United Against Apartheid) ซึ่งปฏิเสธที่จะฉายภาพยนตร์ของตนในแอฟริกาใต้ในยุคการแบ่งแยกสีผิว เราจึงให้คำมั่นว่าจะไม่ฉายภาพยนตร์ ปรากฏตัว หรือทำงานร่วมกับสถาบันภาพยนตร์ของอิสราเอล รวมถึงเทศกาลภาพยนตร์ โรงภาพยนตร์ บริษัทออกอากาศ และบริษัทผลิตภาพยนตร์ ซึ่งมีส่วนพัวพันกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และการแบ่งแยกต่อชาวปาเลสไตน์” พร้อมชี้ว่า สถาบันภาพยนตร์อิสราเอลมีส่วนในฟอกขาวหรือสร้างความชอบธรรมให้กับการละเมิดสิทธิของชาวปาเลสไตน์
นอกจากนี้ คำมั่นสัญญาดังกล่าวยังมีการกล่าวถึงความเห็นของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เมื่อปีที่แล้วว่า การยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ของอิสราเอลไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขณะที่การประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนและนักวิชาการหลายคนชี้ว่า การโจมตีทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซาถือเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
สำหรับผู้ลงนามในคำมั่นสัญญาดังกล่าวนั้นรวมถึงนักแสดงอย่าง โอลิเวีย โคลแมน, เอ็มมา สโตน, มาร์ก รัฟฟาโล, ทิลดา สวินตัน, ริซ อาห์เหม็ด, ฮาเวียร์ บาร์เด็ม และซินเทีย นิกสัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.ย. 68)
