รัฐบาลจีนเตรียมพิจารณามาตรการช่วยเหลือรัฐบาลท้องถิ่น เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ค้างชำระจำนวนมหาศาลที่ติดค้างบริษัทเอกชน ซึ่งประเมินว่ามีมูลค่ารวมมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเบื้องต้นอาจใช้วงเงินราว 1 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 1.4 แสนล้านดอลลาร์) ในการชำระหนี้ให้กับภาคเอกชน และตั้งเป้าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2570
ข้อมูลจาก Caitong Securities ระบุว่า จีนอาจจัดสรรพันธบัตรพิเศษมูลค่าประมาณ 2 แสนล้านหยวนภายในปีนี้ เพื่อนำไปชำระหนี้คงค้างให้แก่ภาคเอกชน โดยพิจารณาจากการออกพันธบัตรพิเศษที่เกี่ยวข้องกับการสำรองที่ดินและการก่อสร้างโครงการในช่วงที่ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวทำให้ความเสี่ยงตกไปอยู่กับธนาคารของรัฐที่ถูกกำหนดให้เข้ามาปล่อยกู้ แม้ปัจจุบันธนาคารเหล่านี้เผชิญแรงกดดันจากหนี้เสียและผลกำไรที่ลดลงต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่สุด 5 แห่งของจีนได้ตั้งสำรองหนี้เสียรวม 3.51 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้นเกือบ 6% เมื่อเทียบกับสิ้นปีที่ผ่านมา
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเคยกล่าวสุนทรพจน์เมื่อเดือนก.พ. และมีการเผยแพร่เมื่อเดือนก่อน โดยเตือนว่า ความล่าช้าในการชำระเงินของภาครัฐอาจบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนต่อรัฐบาล และหนี้ที่ค้างอยู่ยังอาจทำให้ธุรกิจเอกชนที่อยู่ในภาวะเปราะบางต้องหยุดชะงัก และส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อสังคม
ทางการจีนได้สั่งให้ธนาคารรายใหญ่สนับสนุนโครงการนี้ รวมถึงการปล่อยสินเชื่อระยะสั้นแก่รัฐบาลท้องถิ่นเพื่อใช้ชำระหนี้ของหน่วยงานในสังกัด แม้หนี้เหล่านี้จะไม่ใช่ภาระตรงของรัฐบาลท้องถิ่น แต่ยังคงต้องรับผิดชอบในฐานะผู้ค้ำประกัน ขณะเดียวกัน ธนาคารยังต้องการการสนับสนุนเพิ่มเติมจากหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะไม่ถูกสั่งให้รับผิดชอบ หากหนี้ที่ปล่อยไปกลายเป็นหนี้เสีย
ด้านการประเมินจาก เดวิด หลี่ เต้าคุย นักเศรษฐศาสตร์จีนคาดว่า หนี้ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานท้องถิ่นมีมูลค่ารวมราว 10 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นราว 7% ของจีดีพีจีนในปีที่ผ่านมา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.ย. 68)
