Microsoft-OpenAI บรรลุข้อตกลงเบื้องต้น เปิดทาง OpenAI ตั้งบริษัทแสวงหาผลกำไร

ไมโครซอฟท์ (Microsoft) และโอเพนเอไอ (OpenAI) แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (11 ก.ย.) ว่า ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับเงื่อนไขความสัมพันธ์ใหม่ ซึ่งจะเปิดทางให้โอเพนเอไอเดินหน้าเปลี่ยนโครงสร้างเป็นบริษัทแสวงหาผลกำไรเต็มตัว ถือเป็นก้าวใหม่ของคู่พาร์ตเนอร์ที่ปลุกกระแส ChatGPT ให้โด่งดัง แม้รายละเอียดยังไม่มีการเปิดเผย แต่ทั้งสองฝ่ายยืนยันว่ากำลังเร่งสรุปสัญญาฉบับจริง

ดีลนี้ถือเป็นความคืบหน้าสำคัญหลังการเจรจาที่ยืดเยื้อมานาน เพราะโอเพนเอไอต้องการระดมทุนเพิ่มภายใต้โครงสร้างบริษัทที่เหมือนธุรกิจทั่วไป และตั้งเป้าจะนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นในอนาคตเพื่อหาเงินมาพัฒนา AI ต่อไป

ก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์เคยลงทุนในโอเพนเอไอไปแล้ว 1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2562 และอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อต้นปี 2566 ซึ่งข้อตกลงเดิมทำให้ไมโครซอฟท์ได้สิทธิ์ขายซอฟต์แวร์ของโอเพนเอไอผ่านคลาวด์ Azure แต่เพียงผู้เดียว และได้ใช้เทคโนโลยีก่อนใคร

แต่ล่าสุด ไมโครซอฟท์ก็ยอมลดการผูกขาดลง เพื่อเปิดทางให้โอเพนเอไอไปทำโปรเจกต์ดาต้าเซ็นเตอร์ของตัวเองอย่าง “สตาร์เกต” (Stargate) รวมถึงไปเซ็นสัญญาระยะยาวมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์กับออราเคิล (Oracle) และทำข้อตกลงด้านคลาวด์กับกูเกิล (Google) ด้วย

เมื่อรายได้ของโอเพนเอไอพุ่งสู่ระดับหลายพันล้าน บริษัทจึงต้องการโครงสร้างที่เป็นสากลมากขึ้น และหาพาร์ทเนอร์คลาวด์เพิ่มเพื่อขยายธุรกิจและหาพลังประมวลผลให้เพียงพอ

ขณะเดียวกัน ไมโครซอฟท์ก็ต้องการการันตีว่าจะได้ใช้เทคโนโลยีของโอเพนเอไอต่อไป แม้ในวันที่โอเพนเอไอประกาศว่า AI ของตนฉลาดเทียบเท่ามนุษย์แล้ว ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่จะทำให้สัญญาปัจจุบันต้องสิ้นสุดลงตามข้อตกลงเดิม

โอเพนเอไอระบุว่าภายใต้เงื่อนไขใหม่นี้ องค์กรฝั่งไม่แสวงผลกำไรจะได้รับเงินกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ เงินจำนวนนี้คิดเป็น 20% ของมูลค่าประเมินที่ 5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้องค์กรนี้กลายเป็นหนึ่งในหน่วยงานไม่แสวงผลกำไรที่รวยที่สุดในโลก ตามบันทึกของเบรต เทย์เลอร์ ประธานบอร์ดฝั่งไม่แสวงผลกำไร

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองบริษัทยังไม่ได้เปิดเผยว่า ไมโครซอฟท์จะถือหุ้นในโอเพนเอไอเป็นสัดส่วนเท่าใด และจะยังได้สิทธิ์ใช้โมเดลล่าสุดก่อนใครหรือไม่

แต่เส้นทางนี้ไม่ง่าย เพราะโอเพนเอไอยังต้องรอการอนุมัติโครงสร้างใหม่จากอัยการสูงสุดของรัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐเดลาแวร์ โดยบริษัทหวังว่าจะเปลี่ยนผ่านให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้ มิฉะนั้นอาจเสี่ยงเสียเงินทุนหลายพันล้านดอลลาร์ที่ผูกกับเงื่อนไขเวลาดังกล่าว

ขณะเดียวกัน ทั้งไมโครซอฟท์และโอเพนเอไอก็ยังแข่งขันกันเองในตลาด ตั้งแต่แชทบอตสำหรับคนทั่วไปจนถึงเครื่องมือ AI สำหรับธุรกิจ นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ก็กำลังพัฒนาโมเดล AI ของตัวเองเพื่อลดการพึ่งพาโอเพนเอไอในระยะยาว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.ย. 68)