รัฐบาลออสเตรเลียประกาศแผนการใช้จ่าย 9 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายในปี 2573 เพื่อเสริมสร้างความพร้อมในการรับมือภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดบ่อยขึ้น และมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น
ข้อมูลจาก National Adaptation Plan ระบุว่า งบประมาณรายจ่ายดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในหลายด้าน ทั้งการป้องกันน้ำท่วม การอนุรักษ์พื้นที่ป่า การช่วยเหลือภาคการเกษตรเปลี่ยนผ่านสู่การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ รวมถึงการจัดการผลกระทบด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น ขณะที่รายงานอีกฉบับซึ่งเผยแพร่พร้อมกับแผนงานดังกล่าวยังเตือนด้วยว่า หากไม่เร่งรับมือ มูลค่าความเสียหายจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศอาจสูงถึง 4 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลียต่อปี
คริส โบเวน รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กล่าวว่า ไม่มีชุมชนใดในออสเตรเลียที่จะรอดพ้นจากความเสี่ยง ทั้งคลื่นความร้อน น้ำท่วม ไซโคลน ภัยแล้ง และไฟป่า
โบเวนระบุว่า อุณหภูมิแต่ละองศาที่เราสามารถชะลอไม่ให้โลกร้อนขึ้นได้ จะช่วยลดผลกระทบอันเลวร้ายที่จะตกกับคนรุ่นต่อไป พร้อมชี้ถึงความก้าวหน้าด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการลงทุนพลังงานสะอาดของออสเตรเลียที่แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
แผนการใช้จ่ายดังกล่าวมีขึ้นในช่วงที่ออสเตรเลียเตรียมประกาศเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประจำปี 2578 และกำลังเสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วมจัดการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ (UN) ในปีหน้า ขณะที่บรรดากลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมเรียกร้องให้รัฐบาลตั้งเป้าหมายที่เข้มข้นยิ่งขึ้น หลังประเทศเผชิญภัยพิบัติซ้ำซาก ซึ่งสร้างความเสียหายมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในแต่ละปี
ทั้งนี้ ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหัวสูงที่สุด และยังเป็นผู้ส่งออกเชื้อเพลิงฟอสซิลรายใหญ่ จำเป็นต้องลดการปล่อยก๊าซลงถึง 71% ภายในปี 2578 หากต้องการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในกลางศตวรรษนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ย. 68)
