
คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดงานสัมมนา “Unlock 60: Keys to the Betterverse of Communication ปลดล็อกคีย์เวิร์ดสู่อนาคตการสื่อสาร” เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปีของการก่อตั้งคณะ งานนี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 กันยายน ณ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ โดยได้เชิญผู้นำจากหลากหลายวงการมาเผย “Keywords” สำคัญที่จะช่วยเสนอแนวทางการปลดล็อกกลยุทธ์ นวัตกรรม และวิธีคิดใหม่ ๆ เพื่อพาอุตสาหกรรมสื่อไทยก้าวข้ามความท้าทายสู่อนาคต
บนเวทีสัมมนาในเซสชัน Keyword to the Next Decade of Tech & Communicationงาน คุณผ่านศึก ธงรบ ผู้เชี่ยวชาญแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งและคอนเทนต์จาก iQIYI และคุณยงยุทธ ทองกองทุน อดีตผู้อำนวยการฝ่ายคอนเทนต์ Netflix ประเทศไทย ได้แบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับการทำงานทั้งหน้าม่านและหลังม่านของวงการสตรีมมิ่งไทย ซึ่งมีส่วนสร้างความสำเร็จให้กับคอนเทนต์ไทยในตลาดโลก
เมื่อกล่าวถึงอนาคตของคอนเทนต์ไทยและสตรีมมิ่ง ทั้งคุณผ่านศึกและคุณยงยุทธต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ โดยคุณผ่านศึกระบุว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ผู้คนเริ่มรับคอนเทนต์ที่มีความเฉพาะกลุ่ม (Niche) มากขึ้น ต่างคนต่างรับชมในสิ่งที่ตนเองสนใจ แต่เมื่อเวลาล่วงเลยมาถึงปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะแม้ว่าผู้คนจะรับชมเฉพาะคอนเทนต์ที่ตัวเองสนใจ แต่สตรีมมิ่งก็เปิดโอกาสให้ผู้คนได้รับรู้ถึงคอนเทนต์ที่ผู้อื่นสนใจด้วยเช่นกัน หากความสนใจต่อสิ่ง ๆ นั้นยิ่งใหญ่เพียงพอ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว และการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก็มาพร้อมกับโอกาส
ด้านคุณยงยุทธกล่าวว่า ระบบสตรีมมิ่งช่วยให้เข้าใจความหลากหลายของกลุ่มผู้ชม เป็นโอกาสให้ผู้ผลิตคอนเทนต์สามารถตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดมากขึ้น
*ซีรีส์วาย – ปลดล็อกคอนเทนต์ไทยสู่ตลาดโลก
แม้ว่าอนาคตอาจจะเกินคาดเดา แต่ในแง่ของคอนเทนต์ คุณผ่านศึกชี้ถึงเทรนด์ที่น่าจับตาของซีรีส์ Boys’ Love (BL) หรือซีรีส์วายของไทยที่กำลังมาแรง ได้รับกระแสตอบรับที่ดีทั้งตลาดในประเทศและตลาดโลก โดยคุณผ่านศึกได้ถอดสูตรสำเร็จที่ทำให้คอนเทนต์วายไทยได้รับความนิยมไว้ดังนี้
- Sex/Love: จากเดิมที่ละครมีตัวเอกเป็นชายกับหญิง พอเปลี่ยนมาเป็นชายชาย จึงเป็นปัจจัยที่ดึงดูดผู้ชมได้ในระยะแรก แต่เมื่อมองลึกลงไปแล้ว ซีรีส์วายก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการบอกเล่าเรื่องราวความรัก ซึ่งเป็นภาษาสากลที่สื่อสารได้ง่าย และด้วยเสน่ห์บางอย่างของวัฒนธรรมบ้านเราก็ทำให้ซีรีส์วายมี “รส” กลมกล่อม และสามารถดึงดูดความสนใจจากแฟน ๆ ต่างชาติได้
- BL vs Gay series: ซีรีส์วายหรือ BL กับซีรีส์เกย์ อาจไม่แตกต่างกันหากมองจากมิติของสังคม แต่แท้จริงแล้วซีรีส์สองกลุ่มนี้มีขอบเขตบางอย่างอยู่ ด้วยความที่ผู้รับชมคอนเทนต์ประเภทซีรีส์วายส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ดังนั้นการที่ซีรีส์วายทำมาแรงมากเกินไปจนก้าวข้ามเส้นอะไรบางอย่างในความรู้สึกของผู้ชม ผู้ชมก็อาจมองว่าเป็นซีรีส์เกย์ และทำให้จำนวนผู้ชมลดลงได้
- Female Engagement: อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่น่าจะเป็นสูตรสำเร็จของซีรีส์วายไทย ตลอดจนละคร หรือสื่ออื่น ๆ นั่นคือความรู้สึกของการมีส่วนร่วม ซึ่งซีรีส์วายมีข้อได้เปรียบจากการมีฐานแฟน ๆ เป็นผู้หญิง และตัวละครที่ไม่ถูกกำหนดตีกรอบด้วยเพศ ทำให้ผู้ชมสามารถแทนตัวเองเข้าไปเป็นตัวละครหนึ่งของเรื่องได้ง่ายขึ้น
- Marketing: ซีรีส์วายไทยมีการทำการตลาดที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นจุดที่ประเทศอื่น ๆ มีน้อย หรืออาจไม่มีเลย ทั้งยังมีกลุ่ม “สาววาย” ที่ช่วยส่งออกคอนเทนต์จึงช่วยให้เติบโตได้ดี นอกจากนี้ ซีรีส์วายบางเรื่องยังเริ่มวางแผนการตลาดตั้งแต่ตอนสร้างสรรค์คอนเทนต์ จึงทำให้ซีรีส์เรื่องนั้น ๆ มีความน่าสนใจและแตกต่างจากเรื่องอื่น ๆ
- Local-Global Pitching: การนำเสนอเองก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่เป็นที่จับตามองในปัจจุบัน เพราะผู้ชมมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน การจะเลือกดูอะไรสักอย่างจำเป็นต้องคุ้มค่ากับเวลา ดังนั้นการนำเสนอจึงต้องดึงดูดความสนใจให้ได้ในเวลาสั้น ๆ
นอกจากนี้ คุณผ่านศึกยังเสนออีกว่า ในยุคที่ภูมิทัศน์สื่อเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้สร้างคอนเทนต์ไทยจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ที่สมดุลระหว่างการสำรวจสิ่งใหม่และการรักษาจุดแข็งเดิม กลยุทธ์ “เขย่งก้าว แต่ยังยืนพื้นเดิม” หมายถึงการทดลองทำเนื้อหาที่แปลกใหม่เพื่อเข้าถึงผู้ชมกลุ่มใหม่ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ละทิ้งฐานแฟนเดิมที่เป็นรากฐานสำคัญของความสำเร็จ ไม่ใช่ทุกโปรเจกต์ที่จะต้องมุ่งสู่ตลาดโลก แต่หากต้องการเข้าสู่เวทีสากล ผู้สร้างจำเป็นต้องศึกษาและเข้าใจรสนิยมของผู้ชมต่างชาติอย่างลึกซึ้ง การรักษาสมดุลนี้จะช่วยให้อุตสาหกรรมคอนเทนต์ไทยสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนและพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงขึ้นในอนาคต
*พัฒนาคน – กุญแจขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสตรีมมิ่งไทย
ในส่วนของบุคลากรหลังม่าน หรือผู้ผลิตคอนเทนต์ คุณยงยุทธได้แบ่งออกเป็นสองกลุ่มทักษะหลัก ได้แก่ Creative หรือฝ่ายคิด และ Production หรือฝ่ายลงมือทำ ซึ่งล้วนแต่มีความสำคัญยิ่งในอุตสาหกรรมนี้ พร้อมทั้งยกย่องคนไทยในอุตสาหกรรมว่าเป็นผู้ที่มีทั้งฝีมือและมีใจรักในการทำงาน โดยคุณยงยุทธได้เสนอแนะเพิ่มเติมถึงสิ่งที่จำเป็นต่อการพัฒนานั่นก็คือ การเปิดใจให้กว้างเพื่อเผชิญกับ “Uncomfortably exciting” หรือ “เสียว แต่มันส์” อันหมายถึงการเปลี่ยนแปลง ความท้าทายที่จะพาเราไปสู่สิ่งใหม่
ทั้งนี้ คุณยงยุทธได้แบ่งปันแนวทางในการพัฒนาบุคลากรหลังม่านไว้ดังนี้
- ความชัดเจนในเรื่องที่เล่า-คนดูของเราเป็นใคร: สำหรับฝั่ง Creative แล้ว ผู้ที่ถ่ายทอดเรื่องราวจำเป็นต้องมีความเข้าใจในสิ่งที่เล่า และเล่าออกมาอย่างชัดเจน โดยรู้จักว่าเรากำลังเล่าให้ใครฟัง
- เล่าเรื่องไทยด้วยวิธีการที่เป็นสากล: ในการก้าวไปสู่ระดับโลก ฝ่าย Production ก็ต้องศึกษาวิธีการทำงานจากต่างชาติเพื่อยกระดับทักษะในการถ่ายทอดเรื่องราว โดยคุณยงยุทธชี้ให้เห็นว่า การถ่ายทอดเรื่องราวด้วยอวัจนภาษา ไม่ว่าจะผ่านภาพ ดนตรี หรือท่าทาง จะช่วยลดอุปสรรคจากการอ่านคำบรรยาย หรือซับไตเติล และทำให้ถ่ายทอดได้ง่ายขึ้น แต่ก็ต้องไม่ลืมตัวตนของความเป็นไทยอันเป็นเสน่ห์ของเราไว้
- การบริหารเป็นสิ่งสำคัญ: ในอุตสาหกรรมนี้ การพัฒนาการวางแผน การทำบัญชีการเงิน การทำประกัน หรือความปลอดภัย มีผลอย่างยิ่งต่อการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและความพร้อมในการคว้าโอกาส ตัวอย่างเช่น ในกรณีที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากภาครัฐ หรือเมื่อต้องจัดการเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา การมีทักษะเพื่อจัดการกับสิ่งเหล่านี้จะช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้น
ท้ายที่สุดนี้ ในยุคที่ภูมิทัศน์สื่อเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและคาดเดาไม่ได้ อุตสาหกรรมคอนเทนต์ไทยกำลังยืนอยู่บนจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ความสำเร็จของซีรีส์วายไทยที่สามารถเข้าถึงตลาดโลกได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเนื้อหาแบบไทย ๆ ที่มีเอกลักษณ์และความเป็นสากลไปพร้อมกัน แต่การก้าวสู่ระดับโลกอย่างยั่งยืนนั้นต้องอาศัยการทำงานร่วมกันทั้งหน้าม่านและหลังม่าน ตั้งแต่การสร้างสรรค์เนื้อหาที่มีคุณภาพ การพัฒนาทักษะบุคลากรในทุกระดับ การบริหารจัดการที่เป็นมาตรฐานสากล ไปจนถึงการสนับสนุนจากภาครัฐที่ต่อเนื่อง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ก.ย. 68)