“ฮุน เซน” ลั่น! “ทักษิณ” ไม่มีทรัพย์สินในกัมพูชา สยบข่าวลือจ่ออายัดทรัพย์

สื่อกัมพูชา Khmer Times รายงานในวันนี้ (17 ก.ย.) ว่า สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภา ออกโรงสยบข่าวลือที่สื่อหลายสำนักประโคมข่าวว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย มีทรัพย์สินอยู่ในกัมพูชา และทางการกำลังเตรียมอายัดทรัพย์สินดังกล่าว โดยตอกย้ำว่าข่าวดังกล่าว “เป็นเท็จและจงใจสร้างความเข้าใจผิด”

ในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งซึ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อค่ำวันจันทร์ (15 ก.ย.) สมเด็จฯ ฮุน เซน ยืนกรานว่า ทั้งทักษิณและยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้เป็นน้องสาว ไม่ได้มีทรัพย์สินหรือแหล่งรายได้ใด ๆ ในกัมพูชา

“ผมเพิ่งเห็นรายงานข่าวที่ระบุว่า ฯพณฯ ทักษิณ มีทรัพย์สินในกัมพูชา และทางการกัมพูชากำลังเตรียมที่จะอายัดทรัพย์สินเหล่านั้น”

“แม้ในอดีตผมเคยมีปัญหากับ ฯพณฯ ทักษิณ แต่ผมต้องรับผิดชอบในการปกป้องเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของ ฯพณฯ ทักษิณ” สมเด็จฯ ฮุน เซน ระบุในแถลงการณ์

ทั้งนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้น หลังจาก “Whale Hunting” ซึ่งเป็นสำนักข่าวเชิงสืบสวน ได้เปิดประเด็นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ทักษิณ ซึ่งกำลังรับโทษจำคุก 1 ปีในคดีทุจริตและใช้อำนาจมิชอบ ได้สร้างอาณาจักรมืดมูลค่าราว 2.5-3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านธุรกิจเหมืองในแอฟริกา กาสิโนในกัมพูชา และบริษัทนอกประเทศ

รายงานยังอ้างว่า เบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ นักต้มตุ๋นชาวแอฟริกาใต้ที่เคยต้องโทษ ทำหน้าที่เป็นตัวกลางคนสำคัญให้กับอดีตนายกฯ ไทย และเป็นศูนย์กลางเครือข่ายบริษัทนอมินีที่เข้าถือหุ้นใหญ่ในภาคพลังงานของไทย

สมเด็จฯ ฮุน เซน โต้ข่าวดังกล่าว โดยชี้แจงว่าทุกครั้งที่ทักษิณหรือยิ่งลักษณ์มาเยือนกัมพูชา เขาต้องให้ยืมรถยนต์ส่วนตัวใช้ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าทั้งสองไม่มีทรัพย์สินใด ๆ ในกัมพูชา

“ผมต้องขอชี้แจงเพิ่มเติมว่า ฯพณฯ ทักษิณ และผมไม่เคยหารือเรื่องธุรกิจใด ๆ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวหรือครอบครัว” สมเด็จฯ ฮุน เซน กล่าวเสริม

สมเด็จฯ ฮุน เซน เรียกร้องให้ประชาชนหยุดแชร์ข้อมูลเท็จเพื่อปกป้องเกียรติภูมิของชาติ พร้อมระบุว่าหากข่าวลือนี้มาจากฝั่งไทย ก็เป็นหน้าที่ของทางการไทยที่ต้องจัดการ

อย่างไรก็ดี บทความของ Whale Hunting มีทิศทางสอดคล้องกับรายงานของ The Online Citizen และ Asia Sentinel ที่ยืนยันบทบาทของเมาเออร์เบอร์เกอร์ในการทำธุรกรรมการเงินก้อนใหญ่ของทักษิณและพวกพ้อง ซึ่งการเชื่อมโยงกับชนชั้นนำทางการเมืองของกัมพูชายิ่งตอกย้ำข้อกล่าวหาเรื่องเครือข่ายข้ามชาติที่เข้ามามีอิทธิพลในภาคพลังงานของไทย

ก่อนหน้านี้ สม รังสี อดีตหัวหน้าพรรคสงเคราะห์ชาติกัมพูชา (CNRP) ที่ถูกยุบพรรค และแกนนำฝ่ายค้านในต่างแดน ใช้รายงานดังกล่าวมาโจมตีสมเด็จฯ ฮุน เซน และทักษิณ โดยอ้างว่าความขัดแย้งทางธุรกิจคือสาเหตุที่แท้จริงของความตึงเครียดระหว่างสองผู้นำ ไม่ใช่ปัญหาชายแดน และความบาดหมางนี้เองที่นำไปสู่การปะทะนองเลือด 5 วันระหว่างกองทัพสองประเทศ

ข้อกล่าวหาดังกล่าวถูกรัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธไปเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

“โฆษกรัฐบาลขอเรียนให้ประชาชนทราบว่า สมเด็จเดโช ฮุน เซน, สมเด็จธิบดี ฮุน มาเนต และครอบครัว ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับนายหน้าชาวแอฟริกาใต้คนดังกล่าว และไม่เคยซื้อหุ้นในบริษัทไทยใด ๆ ตามที่ถูกกล่าวหา” แถลงการณ์รัฐบาลระบุ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ก.ย. 68)