Google ส่ง Gemini ลงเบราว์เซอร์ Chrome หลังศาลตัดสินไม่ต้องแยกกิจการในคดีผูกขาด

กูเกิล (Google) ประกาศว่าจะเพิ่ม Gemini เข้าไปในเบราว์เซอร์ Chrome ให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ ได้ใช้งานตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้ (18 ก.ย.) หลังศาลรัฐบาลกลางมีคำตัดสินให้บริษัทไม่ต้องแยกธุรกิจออกจากกันในคดีต่อต้านการผูกขาดเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน

เมื่อต้นเดือนนี้ ผู้พิพากษาในกรุงวอชิงตันได้มีคำตัดสินว่า กูเกิลซึ่งมีบริษัทแม่คืออัลฟาเบท (Alphabet) ไม่จำเป็นต้องขายธุรกิจเบราว์เซอร์ คำตัดสินนี้ถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของกลุ่มบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ (Big Tech) ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนักในการต่อสู้กับหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ศาลยังสั่งให้กูเกิลต้องเปิดเผยข้อมูลให้คู่แข่ง เพื่อเพิ่มการแข่งขันในตลาดเสิร์ชเอนจิน

กูเกิลระบุในบล็อกโพสต์ว่า ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ Mac และ Windows ในสหรัฐฯ ที่ตั้งค่าภาษาเป็นภาษาอังกฤษ จะสามารถใช้งาน Gemini ใน Chrome ได้แล้ว

เร็ว ๆ นี้ Gemini จะถูกเพิ่มเข้าไปในแอป Chrome บน iOS ของแอปเปิ้ล (Apple) ด้วย

ส่วนผู้ใช้กลุ่มธุรกิจจะได้ใช้ Gemini ผ่าน Google Workspace ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เช่นเดียวกับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในสหรัฐฯ

นอกจากนี้ กูเกิลยังทำให้ Gemini ใน Chrome ทำงานร่วมกับแอปอื่น ๆ ของกูเกิลได้อย่างแนบเนียนยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Calendar, YouTube และ Maps

ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า กูเกิลจะอัปเกรดให้ Gemini ใน Chrome มีความสามารถเหมือน “ผู้ช่วยส่วนตัว” (agentic capabilities) ที่สามารถทำงานซับซ้อนหลายขั้นตอนแทนเราได้ รวมถึงฟีเจอร์ใหม่อื่น ๆ เช่น ช่วยค้นหาเว็บที่เคยเปิดดู และสรุปเนื้อหาจากหลายเว็บไซต์พร้อมกัน

การเพิ่ม Gemini เข้าไปในครั้งนี้ ยังเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อแข่งขันกับบริษัทอื่นที่มี “เบราว์เซอร์ผู้ช่วย” (agentic browsers) อย่าง เพอร์เพล็กซิตี (Perplexity) ซึ่งเมื่อเดือนส.ค. ที่ผ่านมา เพอร์เพล็กซิตีเคยสร้างความฮือฮาด้วยการยื่นข้อเสนอซื้อ Chrome ด้วยเงินสดล้วน ๆ มูลค่า 3.45 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยที่กูเกิลไม่ได้ร้องขอ

เบราว์เซอร์ของเพอร์เพล็กซิตีที่ชื่อว่า Comet ก็เป็นเบราว์เซอร์ AI ที่สามารถทำงานต่าง ๆ แทนผู้ใช้ได้เช่นกัน

คำตัดสินของผู้พิพากษา อมิต เมห์ตา เมื่อต้นเดือนก.ย. ระบุว่า กูเกิลยังสามารถเป็นเจ้าของเบราว์เซอร์ Chrome และระบบปฏิบัติการ Android ต่อไปได้ แต่ห้ามทำสัญญาผูกขาดบางประเภทกับผู้ผลิตอุปกรณ์และนักพัฒนา อย่างไรก็ตาม กูเกิลยังได้รับอนุญาตให้จ่ายเงินให้พาร์ตเนอร์อย่างแอปเปิ้ล เพื่อให้ใช้ Google Search เป็นค่าเริ่มต้นได้ต่อไป ซึ่งวิธีนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้กูเกิลครองตลาดเสิร์ชเอนจินมาโดยตลอด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.ย. 68)