ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลงในช่วงเช้าวันนี้ (22 ก.ย.) ขณะที่นักลงทุนประเมินผลกระทบจากการที่สหรัฐอเมริกาประกาศขึ้นค่าธรรมเนียมวีซ่า H-1B เป็น 100,000 ดอลลาร์ โดยสื่อสหรัฐฯ ระบุว่า นโยบายนี้จะส่งผลกระทบต่อบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon, Microsoft และ Google ที่พึ่งพาโครงการ H-1B มายาวนาน โดยเฉพาะตำแหน่งนักพัฒนาซอฟต์แวร์
ณ เวลา 07.29 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลง 55 จุด หรือ -0.12% แตะที่ระดับ 46,596 จุด
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 ก.ย.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ลงนามในประกาศปรับขึ้นค่าธรรมเนียมที่บริษัทต่าง ๆ ต้องจ่ายเพื่อสนับสนุนผู้สมัครวีซ่า H-1B จากเดิมหลักพันดอลลาร์เป็น 100,000 ดอลลาร์ โดยให้เหตุผลว่า เพื่อป้องกันการใช้โครงการนี้แทนที่แรงงานอเมริกัน และเพื่อคัดเลือกเฉพาะบุคลากรทักษะสูงที่มีความจำเป็นจริง ๆ
คำประกาศดังกล่าวกำหนดให้ผู้ถือวีซ่า H-1B สามารถเข้ามาทำงานในอาชีพเฉพาะทางได้ก็ต่อเมื่อมีการชำระค่าธรรมเนียมดังกล่าว โดยข้อจำกัดนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. เป็นต้นไป
ปัจจุบัน สหรัฐฯ ออกวีซ่า H-1B สำหรับผู้ยื่นขอรายใหม่ปีละ 85,000 ใบ โดยบริษัททั่วไปจ่ายค่าธรรมเนียมเพียงไม่กี่พันดอลลาร์ต่อราย แต่มาตรการใหม่นี้จะทำให้ต้นทุนการจ้างแรงงานต่างชาติพุ่งสูงขึ้น
ทรัมป์กล่าวในพิธีลงนามที่ทำเนียบขาวว่า ค่าธรรมเนียมใหม่นี้จะกระตุ้นให้บริษัทหันมาจ้างแรงงานอเมริกันแทน เพราะไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเพิ่ม
สื่อสหรัฐฯ ระบุว่า นโยบายนี้จะกระทบต่อบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon, Microsoft และ Google ที่พึ่งพาโครงการ H-1B มายาวนาน โดยเฉพาะตำแหน่งนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ขณะที่ CBS เตือนว่า มาตรการนี้อาจส่งผลให้บริษัทอเมริกันย้ายงานไปต่างประเทศมากขึ้น และอาจทำให้จำนวนนักศึกษาต่างชาติที่เลือกเรียนในสหรัฐฯ ลดลงด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ย. 68)
