นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 31.78 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจากระดับปิดเมื่อวานที่ผ่านมา โดยตั้งแต่คืนที่ผ่านมา เงินบาทเคลื่อนไหวไร้ทิศทางที่ชัดเจน โดยมีจังหวะอ่อนค่าสลับกับการทยอยกลับมาแข็งค่าขึ้น สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์ และการทยอยปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องทำจุดสูงสุดใหม่ของราคาทองคำ
อย่างไรก็ดี การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทก็ถูกชะลอลงบ้าง หลังผู้เล่นในตลาดบางส่วนต่างรอทยอยเข้าซื้อเงินดอลลาร์ และปรับสถานะถือครอง (เพิ่มสถานะ Short THB) โดยเฉพาะฝั่งผู้เล่นต่างชาติ ซึ่งมีมุมมองเชิงลบต่อเงินบาทมากขึ้น หลังมีกระแสข่าวว่ารัฐบาล และธนาคารแห่งประเทศไทย เตรียมออกมาตรการลดการแข็งค่าของเงินบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ มีการพูดถึงมาตรการเพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท
ช่วงนี้ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการ เดือนก.ย.68 ของบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก รวมทั้งรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด โดยเฉพาะประธานเฟด Jerome Powell เพื่อประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด
สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาทยังคงเผชิญความเสี่ยง Two-way risk (พร้อมเคลื่อนไหวได้ทั้งสองทิศทาง) โดยหากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทยอยออกมาดีกว่าคาด ขณะเดียวกัน บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดต่างก็ย้ำจุดยืนไม่เร่งรีบลดดอกเบี้ยอย่างที่ตลาดคาดหวัง ก็อาจทำให้ตลาดปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด หนุนการรีบาวด์แข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ซึ่งจะ
กลับมากดดันทั้งราคาทองคำ และเงินบาทได้
นายพูน คาดกรอบเงินบาทวันนี้ จะอยู่ที่ระดับ 31.70-31.90 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 147.67 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 147.90 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1800 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1766 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 31.832 บาท/ดอลลาร์
- “นายกฯ อนุทิน” นำทีม รัฐมนตรีเศรษฐกิจ พบสมาคมธนาคารไทยครั้งแรกรอบ 58 ปี ขอความร่วมมือแก้หนี้ครัวเรือนหนี้เอสเอ็มอี เร่งอัดฉีดสภาพคล่องธุรกิจ มอบโจทย์ “คลัง” สกัดเงินเทา ประสาน ธปท.-ปปง.-ก.ล.ต.เร่งด่วนโยงเส้นทางเงิน เปิดแผนฟื้นเศรษฐกิจไทย “Quick Big Win” สร้างความยั่งยืนและศรัทธาจากนานาชาติ
- รมว.คลัง สั่ง ปลัดคลัง ตั้งทีมเกาะติดเงินสีเทาเงินไหลเข้าประเทศ เชื่อมข้อมูลทุกหน่วยงานร่วมกับ ธปท. ปปง. ก.ล.ต. ดูแลค่าเงินบาท หาจุดต้นตอเงินไหล หลังบาทแข็งค่า ยันพร้อมลุยทันที หลังถวายสัตย์ “พยง” ชี้ต้องจับมือ Connect the Dots ระบบเศรษฐกิจทั้งหมด
- นักกลยุทธ์ตลาดการเงินอาวุโส สายงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ประเมินทิศทางค่าเงินบาทในช่วงกลางถึงระยะยาว มองว่าแรงกดดันด้านแข็งค่าต่อเงินบาทจะยังอยู่ แต่เงินบาทน่าจะไม่แข็งค่าไปจากระดับปัจจุบันมากนัก โดยมองกรอบสิ้นปีนี้ 31.00-32.00 บาทต่อดอลลาร์ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังอ่อนแอและเครื่องชี้ เช่น การส่งออก และการบริโภคภาคเอกชน มีแนว
โน้มชะลอลงต่อได้ในช่วงที่เหลือของปี - ราคาทองคำรูปพรรณพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 56,750 บาท Citi Group คาดการณ์ว่า ทองคำอาจปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3,800-4,000 ดอลลาร์ ส่วนเงินบาทแข็งค่า 31.58 บาทต่อดอลลาร์ ฉุดยอดนักท่องเที่ยวหดตัวลงโดยเฉพาะสหรัฐฯ ลด 5%
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (22 ก.ย.) หลังจากนักลงทุนซึมซับการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งรวมถึงสตีเฟน มิแรน หนึ่งในสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟด ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของ
สหรัฐฯ - สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์ (22 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์
- ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ และประธานเฟดสาขาแอตแลนตา กล่าวว่า แม้การปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นสิ่งที่เหมาะสมเพื่อจัดการกับความเสี่ยงอันเนื่องมาจากอัตราการว่างงานที่สูงขึ้น แต่การฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงยังคงเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก
- นักลงทุนจับตาเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่ Greater Providence Chamber of Commerce (GPCC) ในวันนี้ (23 ก.ย.) เวลา 12.35 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 23.35 น. ตามเวลาไทย
- ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2568 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนส.ค. โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้
บริโภค (CPI)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.ย. 68)
