โจว หลาน รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยวันนี้ (25 ก.ย.) ว่า จีนเตรียมออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนตลาดพันธบัตรสกุลเงินหยวนในฮ่องกง และเร่งผลักดันให้เงินหยวนถูกนำไปใช้ในระดับโลกมากขึ้น โดยจะสนับสนุนให้สถาบันการเงินจากต่างประเทศเข้ามาทำธุรกรรมซื้อคืนพันธบัตร (repo) เพื่อให้การใช้พันธบัตรเงินหยวนมีประสิทธิภาพและคล่องตัวยิ่งขึ้น
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลจีนกำลังพยายามผลักดันเงินหยวนให้เป็นสกุลเงินสากล ท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศและความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงขึ้น
“ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดพันธบัตรของจีนได้รับความสนใจและมีอิทธิพลในระดับโลกเพิ่มขึ้นอย่างมาก” โจว หลาน กล่าวในงานสัมมนาที่จัดร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของฮ่องกง “จากมุมมองของการลดความเสี่ยง พันธบัตรเงินหยวน (RMB) ถือเป็นทางเลือกที่ดีในการช่วยกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุนได้เป็นอย่างดี”
โจว หลาน ยังกล่าวถึงแผนที่จะขยายกลุ่มผู้ดูแลสภาพคล่องในโครงการ Swap Connect ปรับปรุงการจัดการของผู้เสนอราคา และเพิ่มเพดานการซื้อขายต่อวันจาก 2 หมื่นล้านหยวน เป็น 4.5 หมื่นล้านหยวน (6.3 พันล้านดอลลาร์) เพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ทางการจะพยายามเพิ่มปริมาณสินทรัพย์สกุลเงินหยวนนอกประเทศที่มีความน่าเชื่อถือสูงในตลาดฮ่องกง และเร่งเตรียมการเปิดตัวสัญญาซื้อขายล่วงหน้าพันธบัตรรัฐบาลสกุลเงินหยวนในฮ่องกงอีกด้วย
สำหรับมาตรการในปีนี้ที่ออกมาเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางการเงินกับฮ่องกง ได้แก่ การเปิดตัวโครงการ Payment Connect และการขยายโครงการ Bond Connect เพื่อเปิดทางให้สถาบันการเงินในจีนแผ่นดินใหญ่สามารถออกไปลงทุนในต่างประเทศได้มากขึ้น
เมื่อเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา พาน กงเชิ่ง ผู้ว่าการ PBOC เคยกล่าวไว้ว่า เขาคาดว่าระบบการเงินโลกที่ปัจจุบันพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นหลัก จะเปลี่ยนไปเป็นระบบที่มีหลายสกุลเงินสำคัญในอนาคต
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.ย. 68)
