สนง.สลากฯ คาดสัปดาห์หน้าเคาะเพดานจ่าย cash back ออมเงินจากสลาก 6 หลักดิจิทัล

พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล คาดว่า ภายในสัปดาห์หน้า จะมีข้อสรุปเรื่องเพดานการคืนเงิน (cash back) สำหรับการออมเงินจากการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก (L6) แบบดิจิทัล (ผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง”) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการสลากฯ

ทั้งนี้ การคำนวณการคืนเงินดังกล่าว จะคิดจากสัดส่วนของค่าใช้จ่ายและบริหารของสำนักงานกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 17% ซึ่งในสัดส่วนนี้ ประกอบด้วยส่วนลดสำหรับตัวแทน 12-14% และค่าบริหารจัดการของสำนักงานสลากฯ อยู่ที่ 3-5% อย่างไรก็ดี ยืนยันว่า การดำเนินการดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบกับสำนักงานสลากฯ อย่างแน่นอน

สำหรับสัดส่วน 17% ที่เป็นค่าใช้จ่ายและบริหารของสำนักงานสลากฯ นี้ อยู่ในอำนาจของ รมว.คลัง ที่จะสามารถอนุมัติได้ ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยมั่นใจว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายใน 4 เดือนนี้แน่นอน

“cashback L6 ที่ประชาชนจะได้คืนนั้น จะต้องเป็นสลากดิจิทัล ที่ซื้อผ่านแอปฯ เป๋าตังเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันมีทั้งสิ้น 27 ล้านใบ สำหรับหลักการ คือ ผู้ซื้อที่ไม่ถูกรางวัล จะได้รับเงินคืน และนำไปสะสมไว้ โดยเบื้องต้นจะสามารถถอนได้เมื่ออายุ 55 ปี แต่หากอายุเกิน 60 ปี จะต้องถือไปอีก 5 ปี ถึงจะได้เงินก้อนนั้นคืน และเริ่มรอบใหม่ได้” ผอ.สำนักงานสลากฯ กล่าว

ปัจจุบัน รายได้จากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลใน 1 ใบนั้น จะแบ่งสัดส่วนได้ดังนี้ การจ่ายเงินรางวัล 60%, การส่งรายได้เข้าแผ่นดิน 23% และค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ 17%

• เดินหน้า “หวยเกษียณ” คาดขายงวดแรก ธ.ค.68

โดยขณะนี้ กอช. อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อม ทั้งระบบการขาย และการออกรางวัลสลาก กอช. ถือเป็นการสร้างนวัตกรรมการออมที่ตอบโจทย์สังคมยุคใหม่ เปิดโอกาสให้คนไทยทุกคนได้ออมเงินอย่างมีแรงจูงใจ ภายใต้แนวคิด “ศุกร์ได้ลุ้น-สุขได้ออม” เงินทุกบาทที่ซื้อสลากฯ จะกลายเป็นเงินออมทั้งหมด ทั้งยังมีกลไกให้ผู้ซื้อติดตาม และตรวจสอบผลรางวัลได้ด้วยตัวเอง

“คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายสลาก กอช. ได้ในเดือนธันวาคมนี้ โดยรอบแรก ยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ตั้งเป้าจำหน่ายสลากไว้ 5 ล้านฉบับ ซึ่งมั่นใจว่าจะขายหมด เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความน่าสนใจ และแตกต่างจากโครงการสลากออมอื่น ๆ” รองปลัดกระทรวงการคลัง กล่าว

น.ส.จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการ กอช.กล่าวว่า สลาก กอช. เป็นนวัตกรรมการออมใหม่ ที่ใช้พฤติกรรมความชอบเสี่ยงดวงของคนไทยมาเปลี่ยนเป็นเงินเก็บ ผ่านการลุ้นรางวัลทุกสัปดาห์ โดยคนไทยทุกคนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป สามารถซื้อสลาก กอช. ได้ ในรูปแบบสลากขูดดิจิทัล ราคาใบละ 50 บาท ซื้อได้สูงสุด 3,000 บาทต่อเดือน (60 ใบ) ออกรางวัลทุกวันศุกร์ เวลา 17.00 น. แบ่งเป็น รางวัลที่ 1 มูลค่า 1 ล้านบาท จำนวน 5 รางวัล และรางวัลที่ 2 มูลค่า 1,000 บาท จำนวน 10,000 รางวัล

ส่วนผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป สามารถซื้อได้ โดยต้องออมไว้ 5 ปี และยังซื้อได้ไม่จำกัดรอบ หากเสียชีวิต เงินออมทั้งหมดจะตกสู่ทายาทตามกฎหมายหรือบุคคลที่ผู้ซื้อระบุไว้

“ร่าง พ.ร.บ. กองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ที่ผ่านการเห็นชอบจากวุฒิสภามาแล้วนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างนายกรัฐมนตรี นำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งกฎหมายจะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้น 60 วัน นับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ในระหว่างนี้ กอช. ได้นำเสนอร่างกฎกระทรวงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการออกสลาก กอช. ซึ่งจะกำหนดเกี่ยวกับรูปแบบการออกรางวัล โดยกำหนดสลาก กอช. เป็นรูปแบบดิจิทัล และมีหมายเลขหกตัว ออกจำนวน 5 ชุด ชุดละ 1 ล้านฉบับ ราคาฉบับละ 50 บาท มีสิทธิลุ้นรางวัลได้ถึง 3 สิทธิ ลุ้นเลข 6 ตัวตรง รางวัลที่หนึ่ง, เลขหน้า 3 ตัว และเลขหลัง 3 ตัว เป็นรางวัลที่สอง โดยรายละเอียดในการออกรางวัล ให้กระทรวงการคลังพิจารณานำเสนอ ครม. ต่อไป” น.ส.จารุลักษณ์ ระบุ

ทั้งนี้ เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้ว ผู้ที่สนใจจะสามารถซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น กอช. และเครือข่ายพันธมิตรในอนาคตได้ การสมัครทำได้ง่าย เพียงใช้เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก และเลขหลังบัตรประชาชน สำหรับผู้ที่ถูกรางวัล เงินรางวัลจะถูกโอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ของผู้ซื้อทันที

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ต.ค. 68)