รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เสนอมอบเงิน 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 8 หมื่นบาท ให้กับเด็กผู้อพยพที่ไม่มีผู้ปกครองหรือผู้ดูแลตามกฎหมาย เพื่อกระตุ้นให้เดินทางออกจากสหรัฐฯ ด้วยความสมัครใจ ตามจดหมายที่ส่งไปยังศูนย์พักพิงสำหรับผู้ลี้ภัยเมื่อวันศุกร์ (3 ต.ค.)
สำนักงานจัดหาที่พักพิงผู้ลี้ภัยของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS) ระบุว่า กระทรวงฯ จะมอบเงินสนับสนุนการจัดหาที่พักพิงครั้งเดียวให้กับเด็กที่ไม่มีผู้ปกครองอายุ 14 ปีขึ้นไป โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (ICE) ระบุว่า ข้อเสนอนี้เริ่มมอบให้กับเด็กอายุ 17 ปีเป็นลำดับแรก
ข้อความในจดหมายยังระบุว่า เด็กที่มาจากเม็กซิโกไม่สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ แต่เด็กที่สมัครใจออกจากสหรัฐฯ ก่อนวันศุกร์ (3 ต.ค.) จะได้รับสิทธิ์ตามข้อเสนอนี้
เจ้าหน้าที่ของ ICE และ DHS ยืนยันว่ามีข้อเสนอทางการเงินเกิดขึ้นจริง แต่ไม่ได้ระบุจำนวนเงินชัดเจน
ทั้งนี้ ข้อเสนอนี้ถือเป็นข้อเสนอทางการเงินล่าสุดจาก DHS ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อส่งเสริมการเนรเทศโดยสมัครใจ โดยในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้โอนเงิน 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับ DHS สำหรับการเนรเทศโดยสมัครใจ พร้อมเสนอเงิน 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.2 หมื่นบาท ให้กับผู้ลี้ภัยที่เดินทางกลับประเทศด้วยตนเอง
จากข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ นั้น เด็กอพยพมากกว่า 600,000 คนได้ข้ามพรมแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโกโดยไม่มีผู้ปกครองหรือผู้ดูแลตามกฎหมายนับตั้งแต่ปี 2562
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ต.ค. 68)
