EU เดินหน้าจำกัดการเดินทางนักการทูตรัสเซีย หลังพบพัวพันปฏิบัติการจารกรรมในยุโรป

บรรดารัฐบาลของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) เห็นพ้องร่วมกันในการจำกัดการเดินทางของนักการทูตรัสเซียภายในภูมิภาค เพื่อตอบโต้ต่อความพยายามก่อวินาศกรรมที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหน่วยข่าวกรองชี้ว่า มักมีสายลับรัสเซียปฏิบัติการภายใต้สถานะทางการทูตอยู่เบื้องหลัง

มาตรการใหม่นี้ ซึ่งสาธารณรัฐเช็กเป็นผู้ผลักดัน ถือเป็นส่วนหนึ่งของชุดมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ที่กรุงบรัสเซลส์กำลังจัดทำ เพื่อตอบโต้รัสเซียต่อการรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบ โดยร่างมาตรการดังกล่าวต้องได้รับความเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์ก่อนจะมีผลบังคับใช้ แหล่งข่าวสองรายที่ใกล้ชิดกับการเจรจาเปิดเผยว่า ฮังการีซึ่งเป็นประเทศสุดท้ายที่ยังคัดค้าน ได้ถอนการยับยั้งแล้ว

ตามข้อเสนอ นักการทูตรัสเซียที่ประจำอยู่ในประเทศสมาชิก EU จะต้องแจ้งแผนการเดินทางให้รัฐบาลประเทศอื่นทราบล่วงหน้า หากต้องการเดินทางออกนอกประเทศที่ตนปฏิบัติหน้าที่อยู่

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ข่าวกรองที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังการยั่วยุที่ทวีความรุนแรงต่อชาติสมาชิกองค์การนาโต ตั้งแต่การวางเพลิง การโจมตีทางไซเบอร์ การทำลายโครงสร้างพื้นฐาน ไปจนถึงการบุกรุกด้วยโดรน ซึ่งหน่วยงานด้านความมั่นคงของ EU มองว่าเป็นปฏิบัติการที่มีการประสานงานกันเพื่อบ่อนทำลายเสถียรภาพของพันธมิตรยุโรปของยูเครน

อย่างไรก็ตาม การให้สัตยาบันทางกฎหมายอาจล่าช้าออกไป เนื่องจากเกิดข้อพิพาทเกี่ยวกับข้อเสนอของออสเตรียที่ต้องการให้เพิ่มมาตรการยกเลิกการคว่ำบาตรทรัพย์สินที่เชื่อมโยงกับโอเล็ก เดริปาสกา มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย เพื่อชดเชยความเสียหายที่ธนาคารไรเฟเฟเซนของออสเตรียต้องชำระในรัสเซีย โดยมีแนวโน้มที่ชาติสมาชิก EU หลายประเทศจะคัดค้านข้อเสนอนี้ เพราะเจ้าหน้าที่ยุโรปบางส่วนกังวลว่า หากทำเช่นนี้ อาจเท่ากับเป็นการยอมรับความชอบธรรมของศาลรัสเซีย ที่กำลังตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรด้วยการสั่งยึดทรัพย์สินของชาติตะวันตก และยังอาจเปิดช่องให้มหาเศรษฐีคนอื่น ๆ ใช้ช่องทางเดียวกันนี้ฟ้องร้องได้อีก

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ต.ค. 68)