กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น เปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (8 ต.ค.) ว่า ในเดือนส.ค. ค่าจ้างที่แท้จริง (ค่าจ้างที่หักผลของเงินเฟ้อออกไปแล้ว) ของคนญี่ปุ่นลดลง 1.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และนับเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 สาเหตุหลักเป็นเพราะเงินเฟ้อที่ยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นนั้นไม่ทันกับราคาสินค้าที่แพงขึ้น
กระทรวงฯ ระบุว่า ค่าจ้างในรูปตัวเงิน (Nominal wages) ซึ่งเป็นรายรับเฉลี่ยต่อเดือนของแรงงานรวมเงินเดือนพื้นฐานและค่าล่วงเวลา เพิ่มขึ้น 1.5% มาอยู่ที่ 300,517 เยน (2,000 ดอลลาร์สหรัฐ) และเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันมา 44 เดือนแล้ว
ในเดือนส.ค. ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่นำมาใช้คำนวณค่าจ้างนั้นสูงขึ้นถึง 3.1% โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากราคาอาหาร ด้วยเหตุนี้ ค่าจ้างที่แท้จริงซึ่งเป็นตัวชี้วัดกำลังซื้อของผู้บริโภคจึงติดลบ
สำหรับอัตราการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างในรูปตัวเงินในเดือนส.ค. นั้นโตชะลอตัวลง เมื่อเทียบกับที่เคยเพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนมิ.ย. และ 3.4% ในเดือนก.ค. เพราะผลจากโบนัสฤดูร้อนเริ่มแผ่วลง
อย่างไรก็ตาม เมื่อปีที่แล้ว ค่าจ้างที่แท้จริงเคยปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าในเดือนมิ.ย., ก.ค., พ.ย. และธ.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่คนส่วนใหญ่ได้รับโบนัสฤดูร้อนและโบนัสสิ้นปี
ส่วนแนวโน้มในอนาคต เจ้าหน้าที่กระทรวงฯ ให้ความเห็นว่า ทิศทางของค่าจ้างที่แท้จริงจะยังคงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ราคาสินค้าต่อไป
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การผลักดันให้มีการขึ้นค่าจ้างถือเป็นเป้าหมายหลักทางนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากครัวเรือนต่าง ๆ กำลังเดือดร้อนจากปัญหาราคาสินค้าแพงขึ้น
นอกจากนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ก็กำลังติดตามสถานการณ์ค่าจ้างและราคาอย่างใกล้ชิด เพื่อใช้ตัดสินใจว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปเมื่อใด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ต.ค. 68)
