จีนประกาศคุมส่งออกเพชรสังเคราะห์ เพิ่มอำนาจในห่วงโซ่อุปทานเทคฯ ขั้นสูง

จีนประกาศมาตรการควบคุมการส่งออกเพชรสังเคราะห์บางประเภทในวันพฤหัสบดี (9 ต.ค.) โดยจะมีผลบังคับใช้ก่อนข้อตกลงยกเว้นภาษีระหว่างจีนและสหรัฐฯ จะสิ้นสุดลง ซึ่งสะท้อนว่าจีนกำลังเพิ่มการควบคุมในห่วงโซ่อุปทานการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูง

กระทรวงพาณิชย์และกรมศุลกากรจีนระบุในแถลงการณ์ว่า นับตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. เป็นต้นไป เพชรสังเคราะห์ในรูปของผงขนาดเล็ก (micropowders), ผลึกเดี่ยว (single crystals), ลวดตัด (wire saws) และ ล้อเจียร (grinding wheels) จะต้องได้รับใบอนุญาตก่อนการส่งออก

นอกจากนี้ จีนยังเพิ่มธาตุหายากอีก 5 ชนิดเข้าสู่บัญชีควบคุมการส่งออกในวันเดียวกัน เพื่อเสริมอำนาจต่อรองท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ โดยอ้างความจำเป็นในการปกป้องความมั่นคงของชาติ

ข้อมูลศุลกากรจีนระบุว่า ในปี 2567 จีนส่งออกเพชรสังเคราะห์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องมูลค่า 30 ล้านดอลลาร์ไปยังสหรัฐฯ โดยสหรัฐฯ เป็นผู้ซื้อผงเพชรขนาดเล็กอันดับสาม รองจากอินเดียและเกาหลีใต้ และเป็นผู้ซื้อล้อเจียรอันดับสาม รองจากเวียดนามและอินเดีย

ทั้งนี้ เพชรซึ่งเป็นหนึ่งในวัสดุที่แข็งที่สุดในโลกมีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น การขัดผิวชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ การกลึงโลหะและเซรามิกแข็งสำหรับอุปกรณ์ควอนตัม และการระบายความร้อนในระบบอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง นอกจากนี้ เพชรสังเคราะห์ยังถูกใช้งานด้านการทหาร เช่น ในการผลิตกระสุนและชิ้นส่วนเรดาร์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ต.ค. 68)