ซานาเอะ ทาคาอิจิ ตัวเต็งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น วิพากษ์วิจารณ์ “การกดขี่ข่มเหง” ของจีนในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ระหว่างการเข้าร่วมเวทีรณรงค์เพื่อหารือประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนที่รัฐบาลปักกิ่งก่อขึ้นในพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศ
ผู้จัดงานระบุว่า ทาคาอิจิได้ส่งสารถึงที่ประชุมซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี (9 ต.ค.) ความว่า “ดิฉันอดรู้สึกโกรธไม่ได้ที่การกดขี่ข่มเหงโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนในมองโกเลียตอนใต้ยังคงดำเนินต่อไป”
ทาคาอิจิส่งสารดังกล่าวในฐานะประธานกลุ่มสมาชิกรัฐสภาของพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ที่ให้การสนับสนุนชาวมองโกเลียในพื้นที่ดังกล่าว นอกจากนี้ เธอยังเรียกร้องให้เกิดความสามัคคีเพื่อ “ปกป้องเสรีภาพ หลักนิติธรรม และสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน”
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศมองโกเลียและรัสเซีย เป็นถิ่นที่อยู่ของประชากรชาติพันธุ์มองโกเลียหลายล้านคน แต่ตามข้อมูลของกลุ่มสิทธิมนุษยชน มีรายงานว่าพวกเขาต้องเผชิญกับนโยบายที่กดขี่ เช่น การจำกัดการเรียนการสอนด้วยภาษามองโกเลีย
ทั้งนี้ ทาคาอิจิ วัย 64 ปี เป็นนักการเมืองอนุรักษนิยมสายแข็ง และเป็นที่รู้จักในฐานะผู้มีจุดยืนแข็งกร้าวต่อจีน เธอชนะการเลือกตั้งชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค LDP เมื่อวันที่ 4 ต.ค. และคาดว่าจะได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่น หลังการลงมติในรัฐสภาช่วงปลายเดือนนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ต.ค. 68)
