
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผันผวนในวันนี้ (14 ต.ค.) โดยแม้ตลาดบางแห่งได้รับแรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ มีท่าทีผ่อนคลายลงกับจีน แต่นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้า หลังจากจีนได้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากเรือสหรัฐฯ ที่เข้ามาเทียบท่าในท่าเรือของจีน เพื่อตอบโต้รัฐบาลสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมในลักษณะเดียวกันกับเรือของจีน ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะเริ่มบังคับใช้มาตรการดังกล่าวในวันนี้
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดตลาดที่ระดับ 47,446.73 จุด ลดลง 642.07 จุด หรือ -1.34%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดตลาดที่ระดับ 25,969.21 จุด เพิ่มขึ้น 79.73 จุด หรือ +0.31% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดตลาดที่ระดับ 3,910.78 จุด เพิ่มขึ้น 21.28 จุด หรือ +0.55%
ดัชนี ASX/S&P 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 0.25% ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ดีดตัวขึ้น 1.01%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจช่วงเช้านี้ กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์เปิดเผยในวันนี้ (14 ต.ค.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 3/2568 ของสิงคโปร์ ขยายตัว 2.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวเพียง 1.9%
อย่างไรก็ตาม GDP ไตรมาส 3 ชะลอตัวลงจากไตรมาส 2 ที่มีการขยายตัว 4.5% ส่วนเมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส GDP ไตรมาส 3 ขยายตัว 1.3% ชะลอตัวลงจากไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 1.5%
ปัจจัยที่ทำให้ GDP ไตรมาส 3 ของสิงคโปร์ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงนั้น มาจากการที่ภาคผลิตที่ซบเซาลง หลังจากมีการขยายตัวถึง 5% ในไตรมาส 2 ขณะที่ภาคการก่อสร้างชะลอตัวลงเช่นกัน โดยขยายตัวเพียง 3.1% ในไตรมาส 3 ซึ่งชะลอลงจากไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 6.2%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ต.ค. 68)