
ราคาน้ำมัน WTI และน้ำมันเบรนท์ ฟื้นตัวในช่วงเช้าวันนี้ (16 ต.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ผู้นำอินเดียได้ให้คำมั่นสัญญาว่า อินเดียจะยุติการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย โดยรัสเซียเป็นผู้จัดหาน้ำมันให้กับอินเดียในสัดส่วน 1 ใน 3 ของการนำเข้าทั้งหมดของอินเดีย
เมื่อเวลา 07:46 น. ตามเวลาไทยในวันนี้ สัญญาน้ำมันเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวขึ้น 57 เซนต์ หรือ 0.9% แตะที่ 62.48 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ย.ดีดตัวขึ้น 54 เซนต์ หรือ 0.9% แตะที่ระดับ 58.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
ปธน.ทรัมป์เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า อินเดียจะยุติการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย และก้าวต่อไปของสหรัฐฯ คือการโน้มน้าวให้จีนยุติการซื้อน้ำมันจากรัสเซียเช่นกัน ในขณะที่สหรัฐฯ ได้เพิ่มความพยายามในการตัดรายได้ด้านพลังงานของรัสเซีย และกดดันให้รัสเซียเข้าร่วมการเจรจาเพื่อทำข้อตกลงสันติภาพในยูเครน
ทรัมป์กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวในงานอีเวนต์งานหนึ่งซึ่งจัดขึ้นที่ทำเนียบขาว ซึ่งเขากล่าวว่า “ตอนนี้ผมจะทำให้จีนทำแบบเดียวกัน” โดยทรัมป์ได้เรียกร้องให้จีนและอินเดียหยุดซื้อน้ำมันจากรัสเซียมาหลายเดือนแล้ว โดยขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าจากทั้งสองประเทศหากทั้งสองประเทศไม่ให้ความร่วมมือ
ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นเช้านี้ หลังจากราคาน้ำมันปรับตัวลงติดต่อกัน 2 วันทำการ อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ รวมทั้งการที่สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ออกรายงานเตือนว่า ตลาดน้ำมันโลกจะเผชิญภาวะน้ำมันล้นตลาดจำนวน 4 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า เนื่องจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส เพิ่มกำลังการผลิต ท่ามกลางอุปสงค์ที่ซบเซา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ต.ค. 68)