
สมาคมอะลูมิเนียมสหรัฐฯ เรียกร้องให้มีการห้ามส่งออกกระป๋องเครื่องดื่มใช้แล้วไปยังจีน เพื่อสนับสนุนการผลิตรถยนต์ เครื่องบินรบ รถถัง และดาวเทียมภายในสหรัฐฯ
สมาคมฯ ระบุว่า เศษอะลูมิเนียมของสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ถูกส่งไปยังจีนเพื่อแปรรูปและส่งกลับมาเป็นสินค้าสำเร็จรูป ขณะที่สหรัฐฯ ส่งออกเศษอะลูมิเนียมเกือบครึ่งหนึ่งของปริมาณทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลมากขึ้น เนื่องจากความต้องการอะลูมิเนียมเพิ่มสูงขึ้นในภาคการผลิตสำคัญ เช่น รถยนต์ เครื่องบิน และบรรจุภัณฑ์
รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้เศษอะลูมิเนียมประมาณ 5–6 ล้านตันต่อปี ขณะที่ส่งออกมากกว่า 2 ล้านตัน โดยสมาคมฯ เรียกร้องให้มีการห้ามส่งออกภาชนะเครื่องดื่มใช้แล้วออกนอกทวีปอเมริกาเหนือในทันที ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ
สมาคมฯ ยังระบุว่า อุตสาหกรรมอะลูมิเนียมของสหรัฐฯ ประสบปัญหาขาดแคลนอะลูมิเนียมดิบประมาณ 4 ล้านตันต่อปี โดยการผลิตใช้เองอย่างเพียงพอต้องใช้เวลาหลายปี เงินลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ และต้องสามารถเข้าถึงพลังงานราคาถูกในปริมาณมหาศาล
ในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยประกาศเก็บภาษี 50% สำหรับอะลูมิเนียมที่นำเข้ามายังสหรัฐฯ โดยประมาณสองในสามของอะลูมิเนียมหลักที่ใช้ทุกปีมาจากแคนาดา ต่อมาในเดือนส.ค. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้ปรับขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมสำหรับสินค้ามากกว่า 400 รายการ รวมทั้งชิ้นส่วนรถยนต์ต่าง ๆ มูลค่าการนำเข้ารวมประมาณ 2.4 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งสินค้าที่ได้รับผลกระทบได้แก่ ระบบไอเสียรถยนต์ เหล็กไฟฟ้าที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า และชิ้นส่วนของรถโดยสาร
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ต.ค. 68)