พลเรือเอก คัง ดง-กิล เสนาธิการทหารเรือ กองทัพเรือเกาหลีใต้ เปิดเผยในวันนี้ (30 ต.ค.) ว่า เกาหลีใต้อาจต้องใช้เวลาประมาณ 10 ปีในการสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ลำแรกของประเทศ
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ผู้นำของเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาได้ประชุมสุดยอดร่วมกันเมื่อวานนี้ (29 ต.ค.) โดยประธานาธิบดีอี แจ-มยอง ได้ขอให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อนุญาตให้เกาหลีใต้สามารถนำเชื้อเพลิงนิวเคลียร์มาใช้ในโครงการเรือดำน้ำ
ต่อมาในวันนี้ ทรัมป์โพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ว่า เขาได้อนุมัติให้เกาหลีใต้สร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ แทนเรือดำน้ำดีเซลรุ่นเก่าที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยจะดำเนินการก่อสร้างที่อู่ต่อเรือในเมืองฟิลาเดลเฟีย
พลเรือเอก คัง ดง-กิล กล่าวกับสมาชิกรัฐสภาในวันนี้ว่า ยังไม่มีการตัดสินใจใด ๆ เกี่ยวกับการสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ พร้อมกับเสริมว่า “หากมีการตัดสินใจใด ๆ ก็ตาม คงต้องใช้เวลาประมาณ 10 ปี”
เขาคาดการณ์ว่า เรือดำน้ำที่จะสร้างขึ้นจะมีขนาด 5,000 ตันหรือมากกว่านั้น และระดับการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมสำหรับเชื้อเพลิงของเรือดำน้ำจะอยู่ที่ 20% หรือต่ำกว่านั้น เนื่องจากมีวัตถุประสงค์การใช้งานเพื่อสันติ
ขณะเดียวกัน อัน กยู-แบค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เขาเชื่อว่าเกาหลีใต้ควรมีเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์อย่างน้อย 4 ลำ และเสริมว่าควรมีการปรึกษาหารือเพิ่มเติมกับกองทัพเรือต่อไป
รมว.กลาโหมเน้นย้ำว่า เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์จะมีความสำคัญทางการทหารอย่าง “มหาศาล” ในการต่อกรกับขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ต.ค. 68)
