คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค (Kimberly-Clark) ประกาศเมื่อวันจันทร์ (3 พ.ย.) ว่าได้บรรลุข้อตกลงเข้าซื้อกิจการบริษัทเคนวิว (Kenvue) มูลค่า 4.87 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างบริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน โดยข้อตกลงดังกล่าวเป็นการชำระด้วยเงินสดและหุ้น และคาดว่าธุรกรรมจะเสร็จสิ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2569
ดีลครั้งนี้จะผสานแบรนด์ชั้นนำอย่าง Huggies และ Kleenex ของคิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค เข้ากับ Band-Aid และ Tylenol ของเคนวิว ส่งผลให้บริษัทใหม่มีแบรนด์ที่มีมูลค่าระดับพันล้านดอลลาร์ถึง 10 แบรนด์ ซึ่งนับเป็นหนึ่งในดีลซื้อกิจการที่มีมูลค่าสูงที่สุดในตลาดวอลล์สตรีทประจำปีนี้
หลังประกาศข่าว หุ้นเคนวิวพุ่งขึ้น 15% ในช่วงเช้าวันจันทร์ ขณะที่หุ้นคิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค ร่วงลง 12% ท่ามกลางความเคลื่อนไหวของนักลงทุนที่จับตาผลกระทบจากการควบรวมครั้งใหญ่
ไมค์ ซู ประธานและซีอีโอของคิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค กล่าวว่า ทั้งสองบริษัทมีเป้าหมายเดียวกันในการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพการดูแลผู้บริโภค พร้อมระบุว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทได้ปรับโครงสร้างเพื่อมุ่งสู่ธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตและผลกำไรสูงขึ้น และการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการเปลี่ยนผ่าน
สำหรับเคนวิวนั้นเป็นบริษัทในกลุ่มเฮลท์แคร์สำหรับผู้บริโภคที่แยกตัวออกจากบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (Johnson & Johnson) เมื่อเดือนพ.ค. 2566 ซึ่งนับเป็นการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบ 140 ปีของ J&J นับตั้งแต่นั้น หุ้นเคนวิวลดลงราว 35% จากราคา IPO และล่าสุดปิดการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ที่ประมาณ 14 ดอลลาร์ต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าตลาดราว 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยปัจจุบัน J&J ได้ขายหุ้นที่เหลือทั้งหมดในเคนวิวแล้ว
ข้อตกลงซื้อกิจการนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวอ้างโดยไร้หลักฐานว่า การใช้ยาอะเซตามิโนเฟน (acetaminophen) ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักของยาไทลินอล (Tylenol) ระหว่างตั้งครรภ์ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะออทิสซึมในทารก ส่งผลให้หุ้นของเคนวิวร่วงลงอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม เคนวิวได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวอย่างหนักแน่น ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์หลายรายยืนยันว่า ไทลินอลยังคงเป็นยาบรรเทาอาการปวดและลดไข้ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับหญิงตั้งครรภ์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 พ.ย. 68)
