
ซานาเอะ ทาคาอิชิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น สั่งการให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำนโยบายเกี่ยวกับชาวต่างชาติในญี่ปุ่นให้เสร็จสิ้นภายในเดือนมกราคมปีหน้า ท่ามกลางความรู้สึกไม่พอใจชาวต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้นในหมู่ชาวญี่ปุ่น
ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อหารือเกี่ยวกับนโยบายชาวต่างชาติ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกภายใต้การนำของนายกฯ ทาคาอิจิ บรรดารัฐมนตรีได้หารือเกี่ยวกับการทบทวนกฎระเบียบว่าด้วยการซื้อที่ดินโดยชาวต่างชาติ และแนวทางในการยกระดับการควบคุมการเข้าเมืองเพื่อจัดการกับปัญหาชาวต่างชาติที่อาศัยในญี่ปุ่นอย่างผิดกฎหมาย
“ได้เกิดสถานการณ์ที่ทำให้ประชาชนรู้สึกไม่สบายใจและรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการกระทำที่ผิดกฎหมายและการละเมิดกฎเกณฑ์โดยชาวต่างชาติบางส่วน” ทาคาอิจิกล่าวในที่ประชุม “เพื่อที่จะไม่ให้เกิดการเกลียดกลัวชาวต่างชาติ รัฐบาลจะตอบสนองต่อประเด็นเหล่านั้นอย่างเด็ดขาด”
มิโนรุ คิฮาระ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า รัฐบาลจะรวบรวมชุดมาตรการที่ครอบคลุมในเดือนมกราคม 2569 เพื่อจัดการกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในญี่ปุ่น
โฆษกรัฐบาลกล่าวในการแถลงข่าวว่า การประชุมรัฐมนตรีครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อยกระดับการกำกับดูแลของรัฐบาลกลางในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ และเพื่อ “สร้างสังคมที่ปลอดภัย มั่นคง เป็นระเบียบ และเท่าเทียมสำหรับประชาชนและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศของเรา”
ทั้งนี้ นโยบายเกี่ยวกับชาวต่างชาติกลายเป็นประเด็นร้อนในญี่ปุ่น ท่ามกลางรายงานข่าวเกี่ยวกับการพำนักเกินกำหนดวีซ่า และการใช้บริการสาธารณะในทางที่ผิดโดยชาวต่างชาติบางกลุ่ม โดยปัญหาที่เกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติได้รับความสนใจจากสาธารณชนในช่วงการเลือกตั้งสภาสูงเมื่อเดือนก.ค. ซึ่งในครั้งนั้นพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ในขณะนั้น ประสบความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ ก่อนที่เขาจะประกาศลาออกในเดือนก.ย.
ในการเลือกตั้งดังกล่าว พรรคการเมืองบางพรรค เช่น พรรคซันเซโตะ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายขวา โต้แย้งว่าควรมีการคุมเข้มชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นเพื่อปกป้องสิทธิของชาวญี่ปุ่น ด้านทาคาอิจิได้ให้คำมั่นในระหว่างการหาเสียงเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค LDP คนใหม่มาสืบทอดตำแหน่งต่อจากอิชิบะว่า เธอจะเสริมสร้างบทบาทของรัฐบาลในการจัดการกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติที่พำนักอาศัยในประเทศ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 พ.ย. 68)
								




