บมจ.บีซีพีจี [BCPG] แจ้งผลประกอบการไตรมาส 3/68 มีกำไรสุทธิ 626.64 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.21 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 28.38 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.01 บาท
BCPG ระบุว่ากลุ่มบริษัทบันทึกกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติในไตรมาส 3/68 ที่ 711.6 ล้านบาท เติบโต 57.4% จากไตรมาส 3/67 และ 442.7% จากไตรมาส 2/68 เนื่องจากการรับรู้ผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศไทยจากกำลังลมที่แรงขึ้น การรับรู้ผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นของโครงการคลังน้ำมันและท่าเทียบเรือ จากปริมาณการใช้ถังเก็บน้ำมัน และการใช้บริการขนถ่ายน้ำมันของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
รวมทั้งการรับรู้ผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป. ลาว เพิ่มขึ้น จากปริมาณน้ำที่มาก และฤดูฝนที่ยาวนานขึ้น การรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในประเทศสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น จากรายได้ค่าความพร้อมจ่าย (Capacity Revenue) ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง
อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นได้รับผลกระทบบางส่วนจากปริมาณการจำหน่ายไฟฟ้าและอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ที่ลดลงจากการรับรู้ผลการดำเนินงานลดลงของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย การหยุดรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศฟิลิปปินส์ การเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งผลการดำเนินงานขาดทุนจากโครงการพลังงานลมใน สปป. ลาว ซึ่งเป็นช่วงนอกฤดูกาล
ในช่วง 9 เดือนปี 68 กลุ่มบริษัทบันทึกกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติที่ 1,040.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศไทย จากกำลังลมที่แรงขึ้น และโครงการคลังน้ำมันและท่าเทียบเรือ ตามปริมาณการใช้ถังน้ำมันและปริมาณการใช้ท่อที่เพิ่มขึ้น การรับรู้ผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป. ลาว จากปริมาณน้ำที่มาก และฤดูฝนที่ยาวนานขึ้น การรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในประเทศสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น จากรายได้ค่าความพร้อมจ่ายที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยที่มีผลดำเนินงานลดลง จากการสิ้นสุด adder และค่าไฟ Ft ลดลง การรับรู้ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นลดลงจากการจำหน่ายโครงการทั้งหมดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 การรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าลมในประเทศฟิลิปปินส์ลดลง โดยเป็นผลจากการหยุดรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2568 และการเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งผลการดำเนินงานขาดทุนจากโครงการพลังงานลมใน สปป. ลาว ซึ่งเป็นช่วงนอกฤดูกาล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 พ.ย. 68)
